อยากรู้ว่าทำไมผู้ชายถึงไม่ลองเอยกับใครสักคน

อยากรู้ว่าทำไมผู้ชายถึงไม่ลองเอยกับใครสักคน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อยากรู้ว่าทำไมผู้ชายถึงไม่ลองเอยกับใครสักคน เลือกไปเลยว่าคบกับใครแบบจริงจัง เรื่องของเรามีอยู่ว่าเรารู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งในที่ทำงานซึ่งเขาเป็นหัวหน้างานเราตอนนั้นเขาคบกับผู้หญิงคนหนึ่งและเราเผอิญได้รู้จักกับผู้หญิงคนนั้นเพราะเรามีโอกาสได้ทำงานกับเขาและก็รู้ว่าเขาเป็นแฟนกับหัวหน้าของเราแต่ความสัมพันธ์ของเขาเหมือนกับแอบคบเพราะผู้ชายไม่ได้เปิดเผยว่าคบจริงจังแต่ผู้หญิงจะเป็นฝ่ายแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของและเหตุมีอยู่ว่าหัวหน้างานเรามักจะให้ความสำคัญกับเราซึ่งแปลกจนเรารู้สึกว่าบางครั้งเราก็กลัวว่าแฟนเขาจะทำยังไงถ้ารู้ว่าเขาให้ความสำคัญกับเรามากเราไม่ได้รู้สึกไปเองนะจนปัจจุบันนี้เรายังปลื้มหรือจะเรียกว่ารักก็ได้เพราะเรากับหัวหน้างานเราคนนี้ยังทำงานที่เดียวกันเจอหน้าเขาทุกวันและจู่ๆก็มีเหตุอีกแล้วเมื่อแฟนสาวของเขาคนนั้นโทรศัพท์มาหาเราร้องไห้และปรึกษาว่าหัวหน้าของฉันได้บอกเลิกกับเธอและหันไปหาผู้หญิงคนใหม่โดยให้เหตุผลว่าเขาเจ้าชู้และเขาเจอผู้หญิงที่เหมือนกับแฟนเก่าที่เคยคบกันเราลืมบอกว่าหัวหน้าเราเขามีความสัมพันธ์กับแฟนเขาแล้วคบกันมา3-4ปีจึงเลิกกันช่วงที่เขากับแฟนคบกันก็ประมาณว่าไปๆมาๆต่อจากนั้นเขาก็เจอผู้หญิงคนใหม่และให้เหตุผลว่าเขามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนใหม่ด้วยและขอให้เธอเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนใหม่ของเขาแต่ทั้งคู่จากกันด้วยดีเพราะผู้หญิงคนนั้นเขามาปรึกษาฉันฉันก็แนะนำว่าถ้าผู้ชายไม่รักก็หาใหม่ก็ได้แต่ในใจของฉันนะอยากมีโอกาสได้คบกับผู้ชายคนนี้เหมือนกันเพราะตลอดเวลาเขาก็ทำดีกับฉันตลอดแม้เขาจะมีคนใหม่แต่เขาก็สังเกตพฤติกรรมฉันตลอดว่าฉันคิดอะไรอยู่ฉันพยายามจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับเขาแต่เขากลับทำดีกับฉันเอาใจเหมือนกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลยจนฉันไม่รู้ว่าเขารักใครหรือไม่หรือไม่จริงใจกับใครเลยสักคนฉันกับเขาไม่มีความสัมพันธ์กันนะเพราะฉันไม่ปล่อยโอกาสเพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาคบผู้หญิงคนอื่นด้วยแต่ยังไงฉันก็ยังรักผู้ชายคนนี้และจาก2ปีผ่านไปฉันได้ข่าวว่าผู้ชายคนนี้กลับไปขอคืนดีกับแฟนเก่าของเขาและแฟนเก่าของเขาก็คุยกับฉันในฐานะเพื่อนฉันก็ถามเขาว่าแล้วแฟนใหม่เขาล่ะแต่แฟนเก่าเขาคบกับผู้ชายคนใหม่แล้วนะฉันก็ตอบว่าแล้วแต่จะตัดสินใจแล้วกันซึ่งเธอก็ตัดสินใจเลือกคบผู้ชายคนใหม่เพราะผู้ชายคนเก่าเขานึ่งเงียบไม่ตอบเกี่ยวกับการกลับมาของเขาและไม่เอ่ยถึงผู้หญิงที่เป็นมือที่3แต่อย่างใดตลอดเวลาผู้ชายที่เป็นหัวหน้าฉันเขาก็ไม่ได้คบกับใครจริงจังเหมือนเดิมแต่ทุกวันนี้ฉันกับเขาทำงานด้วยกันและจากการใกล้ชิดกันในเรื่องงานฉันมีความรู้สึกว่าเขายังให้ความสนใจฉันเหมือนเดิมบางครั้งเป็นที่ปรึกษาในเรื่องบางเรื่องที่ฉันมีปัญหาฉันรู้ตลอดเวลาฉันไม่อยากเข้าข้างตัวเองว่าเขาก็สนใจฉันอยู่บ้างแต่เป็นเพราะฉันเองที่ไม่เปิดโอกาสให้เขาเพราะฉันเองไม่แน่ใจในความคิดของเขาเกี่ยวกับผู้หญิงสองคนนั้นว่าเขาจะเลือกใครแต่ฉันก็รักเขามากเหมือนกันจนฉันไม่รู้จะปรึกษาใครได้แม้แต่เพื่อนๆเพราะกล้วพวกเขาหาว่าฉันคิดไปเองมันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้วแต่ฉันเคยคิดย้ายที่ทำงานหนีเขาไม่อยากเจอหน้าเขาเหมือนกันแต่เขาก็พูดหว่านล้อมฉันให้อยู่กับเขาสารพัดจนเมื่อเดือนที่แล้วฉันขอเขาทำเรื่องย้ายที่ทำงานเขาก็ใช้วิธีการเดิมๆคือไม่ให้ย้ายแต่เขาก็ไม่ได้บังคับฉันแต่ให้ฉันคิดเองและก็เป็นในขณะเดียวกับที่ฉันได้ยินข่าวมาว่าเขาคบกับผู้หญิงคนที่3ซึ่งผู้หญิงคนนี้อายุแก่กว่าเขาหลายปีซึ่งเขาเป็นเพื่อนร่วมงานในตำแหน่งเดียวกันซึ่งฉันก็รู้จักเพราะฉันทำงานอยู่กับเขามา8ปีแต่ฉันไม่รู้ว่าเขาคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่เพราะฉันสังเกตดูว่าเขาไม่มีพิรุธอะไรเลยอ้อฉันลืมเล่าว่าตลอดเวลาที่ฉันอยู่กับเขาเขาไม่เคยแสดงอาการว่าเจ้าชู้หรือสนใจผู้หญิงคนไหนเลยจนบางครั้งฉันรู้สึกว่าฉันผิดหรือเปล่าที่ไม่เปิดโอกาสให้เขาเข้าคบหาด้วยเพราะน้อยใจว่าเขามีแฟนแล้วในตอนต้นและเขาจะรู้สึกสีหน้าไม่ค่อยจะดีเมื่อเห็นฉันคุยโทรศัพท์กับคนแปลกหน้าหรือพูดคุยกับเพื่อนผู้ชายเขาจะจับสายตาดูฉันอยู่ตลอดเวลาและบางครั้งฉันเคยเห็นเขาแสดงอาการไม่พอใจจะไม่ยอมพูดจากับฉันและพูดจาห้วนๆจนฉันต้องไปง้อพูดดีด้วยตอนนี้กลับที่ผู้หญิงคนที่3ของเขานะเขาทำงานด้วยกันไปไหนไปด้วยกันตลอดแต่ผู้ชายก็ไม่เปิดเผยหรือยอมรับว่าคบกับผู้หญิงคนที่3แต่อย่างใดมีแต่ฝ่ายหญิงเท่านั้นที่แสดงอาการเป็นเจ้าของหรือต้องการให้คนอื่นรู้ว่าตนคบกับเพื่อนรุ่นน้องคนนี้โดยบอกว่าตนกับเพื่อนรุ่นน้องได้ไปลอยกะทงด้วยกันมาแต่ฉันก็รู้สึกเสียใจนะที่เขาไปไหนด้วยกันตลอดแต่ฉันก็ไม่ได้เรียกร้องความสนใจอะไรเพราะฉันกับเขาก็ไม่คบหากันแค่รู้สึกดีๆต่อกันเท่านั้นแต่ผู้ชายคนนี้กลับบอกกับฉันเป็นนัยๆว่าเขาไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนี้และเป็นช่วงเดียวกับที่ฉันจะทำเรื่องย้ายที่ทำงานด้วยและไม่ปรึกษาเขาจนเขารู้เขาก็เลยบอกฉันว่าเขาทำเรื่องย้ายที่ทำงานให้แล้วทั้งๆที่เมื่อก่อนเขาเป็นคนไม่ให้ฉันย้ายที่ทำงานโดยเขาบอกว่าที่เมื่อก่อนเขาไม่ทำเรื่องย้ายที่ทำงานให้ฉันเพราะว่าเขาไม่รู้จักใครแต่ครั้งนี้เขาได้ให้เพื่อนเขาคือเพื่อนรุ่นพี่คนนี้ทำเรื่องย้ายที่ทำงานให้ฉันเหมือนกับว่าฉันเป็นหนี้บุญคุณเขาและเพื่อนรุ่นพี่ของเขาและเขายังพูดทิ้งท้ายว่าเขาไม่สนใจว่าใครจะย้ายหรืออยู่และฉันอาจจะไปเจอกับหัวหน้างานใหม่เพื่อนร่วมงานใหม่ๆที่ดีกว่าเขาก็ได้จนฉันรู้สึกเสียใจมากว่าเขาไม่แคร์ฉันเลยฉันยอมรับนะว่าฉันรักเขาและก็รอเขาถ้าเขาจะคบกับฉันอย่างจริงจังฉันก็ยินดีแต่ฉันจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าเขารักใครหรือว่าเขาเป็นผู้ชายเจ้าชู้จริงๆ จากเมื่อก่อนเขาคอยถามความรู้สึกฉันตลอดแต่ตอนนี้เขาไม่ค่อยได้แสดงอะไรต่อฉันเหมือนเมื่อก่อนคำถามคือ ฉันอยากรู้ว่าผู้ชายคนนี้รักใคร เขาคิดอย่างไรกับฉัน เขาจะจริงใจกับผู้หญิงแบบไหน ผู้หญิง 4 คนที่เขายุ่งเกี่ยวด้วยเขาให้ความสำคัญกับใครเป็นพิเศษที่จะร่วมอนาคตด้วย หรือว่าฉันควรตัดใจ ผู้หญิงที่เขาคบด้วย2 คนเขาหน้าตาดี แต่ฉันเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาคนนึง เรื่องอาจจะยาวไปนิดแต่ฉันกลุ้มใจมากเมื่อไม่ได้เห็นหน้าเขาและบางครั้งหงุดหงิดแทบจจะอยู่ไม่ได้และคิดว่าฉันจะทำยังไงถ้าไม่พูดความในใจที่มีต่อเขาแต่ไม่กล้าเพราะเหตุผลดังกล่าวและกลัวหน้าแตกถ้าเขาตอบว่าเขาไม่รู้สึกอะไรกับฉันและก็วุ่นวายใจอยู่ทุกวันที่ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงกับฉันฉันคิดว่าฉันจะทำยังไงถึงจะรู้ว่าเขาคิดยังไงกับฉันฉันเตรียมใจรับกับคำตอบและจะยอมจากไปอยู่ตลอดเวลาคำถามสุดท้ายฉันมีวิธีที่จะทำให้เขาบอกออกมาได้ไหมว่าเขาคิดยังไงกับฉันเพื่อจะได้ตัดใจให้เด็ดขาดและเดินจากเขาไปและจะไม่ขอเจอหน้ากันอีกเพราะฉันรักเขามากถ้ายังทำงานอยู่ที่เดียวกันเห็นหน้ากันฉันว่าฉันลืมเขาไม่ได้แน่ๆ ฉันอายุ34ปี เขาอายุ32 ปี

ผู้ถาม : แก้ว

อ่านเรื่องราวของคุณแล้วรู้สึกเห็นใจคุณค่ะ จากข้อมูลทั้งหมดที่ให้มานี้ เขาคนนี้เป็นผู้ชายที่ค่อนข้างเจนจัดในเรื่องการคบหาผู้หญิงทีเดียว เขาแสดงออกเป็นนัยๆให้คุณทึกทักได้เองว่าเขามีใจให้คุณแต่กลับไม่เคยเอ่ยปากให้ชัดเจน นั่นคือสิ่งที่คุณต้องระวังเรื่องที่หนึ่ง เรื่องที่สองก็คือการที่เขาคบหาผู้หญิงทีเดียวสามคนนั้นก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าถ้าคุณคิดจะรักกับเขาคุณจะกลายเป็นผู้หญิงคนที่สี่ไปทันที บางทีการย้ายที่ทำงานอาจทำให้คุณได้เดินออกจากวังวนที่สับสนนี้และมีโอกาสที่จะได้เจอคนที่ใช่มากกว่านี้ค่ะ

ผู้ตอบ : ทีมผู้เชี่ยวชาญจากกรมสุขภาพจิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook