เปิดตัวสุดยอด 11 เยาวชนไทยรับทุน โครงการ English on Screen เรียนคอร์สภาษาอังกฤษฟรี ที่ ออสเตรเลีย

เรื่อง ขอความกรุณาลงภาพและข่าวประชาสัมพันธ์ เรียน ท่านสื่อมวลชน เปิดตัวสุดยอด 11 เยาวชนไทยรับทุน โครงการ English on Screen เรียนคอร์สภาษาอังกฤษฟรี ที่ ออสเตรเลีย สุดยอด 11 เยาวชนไทยรับทุน โครงการ English on Screen แคมป์สอนภาษาอังกฤษในโรงภาพยนตร์ครั้งแรกของเมืองไทย รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท จาก สถาบัน EF Education First และบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ร่วมกันจัดโครงการดังกล่าวขึ้น โดยเตรียมบินลัดฟ้าเรียนรู้วิถีชีวิตในฐานะนักเรียนต่างชาติ พร้อมเข้าคอร์สติวเข้มภาษาอังกฤษ EF Summer Course กับครูชาวออสเตรเลีย ณ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม ถึง 12 เมษายน 2551 หลังจากผ่านการติวเข้มและทดสอบภาษาอังกฤษจากนักเรียนระดับมัธยม ศึกษาที่เข้าร่วม โครงการ English on Screen จาก 50 โรงเรียนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนกว่า1,000 คน ที่ โรงภาพยนตร์ แกรนด์อีจีวี สยามดิสคัฟเวอรี่ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ประกาศผลไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ 11 เยาวชนไทยที่ผ่านการสอบคัดเลือกจาก โครงการ English on Screen ไปเข้าคอร์สเรียนภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อน EF Summer Course ที่ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม-12 เมษายน 2551 ซึ่ง โครงการ English on Screen เป็นแคมป์สอนภาษาอังกฤษใน โรงภาพยนตร์ให้กับเยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดย สถาบัน EF Education First ได้ร่วมกับ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) จัดขึ้น เมื่อช่วงปลายปี 2550 ที่ผ่านมา มีเยาวชนที่ตอบรับเข้าร่วมอบรมกว่า 1,000 คน เป็นเวลา 2 วัน จากนั้นเยาวชนที่เข้าอบรมทั้งหมดจะต้องผ่านการทดสอบวัดผลเพื่อคัดเลือกเข้ารับทุนการศึกษาไปเรียนคอร์สภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อน EF Summer Course ณ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งเยาวชนทั้ง 11 คนจะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษจากครูชาวออสเตรเลียโดยตรง อีกทั้ง ยังได้เรียนรู้และศึกษาวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของนักเรียนออสเตรเลียตลอดระยะเวลาที่พักอาศัยกับ Host Family สำหรับ 11 เยาวชนไทยที่ผ่านการคัดเลือกจาก โครงการ English on Screen ในครั้งนี้ ได้แก่ นาย นิชฌาน ภิรมย์สวัสดิ์ ชั้น ม.5 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เด็กหญิงถิรตา ถิราติ ชั้น ม.2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน นายไอลวิล โปตระนันทน์ ชั้น ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษานายธนิจ เลาหวินิจ ชั้น ม.4 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นางสาวพิมพ์ชนก ปาละวิสุทธิ์ ชั้น ม.5 โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี นางสาวปวีณ์สุดา เข็มสำฤทธิ์ ชั้น ม. 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นายณภัทร ตันติเจริญเกียรติ ชั้น ม.3 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน นางสาวพิมพ์ปราง บุณยสมิต ชั้น ม.4 โรงเรียนสาธิต -2- แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายวีรชาติ ศรีสโมสร ชั้น ม.5 โรงเรียนโยธินบูรณะ นางสาวนัทธรัตน์ มงคลสินธุ์ ชั้น ม.4 โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และ นางสาวนภัสพร ศรีเกิน ชั้น ม.5 โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย และก่อนที่พวกเขาทั้ง 11 คน จะบินลัดฟ้าไปเข้าคอร์สเรียนภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อน ที่ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ลองมาฟังเคล็ดลับการเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งกว่าใครกันดู นายนิชฌาน ภิรมย์สวัสดิ์ หรือ น้องนิก อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม. 5 สายวิทย์ โรงเรียนกรุงเทพ คริสเตียนวิทยาลัย เผยวิธีการเรียนภาษาอังกฤษให้เก่ง คือ ตนเองถูกปลูกฟังให้ดูรายการโทรทัศน์ของต่างประเทศมาตั้งแต่ยังเด็ก ประมาณ ป.2 -ป.3 เห็นจะได้ ที่สำคัญ คุณพ่อ-ชาญชัย ภิรมย์สวัสดิ์ ค่อนข้าง จะให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษอย่างมาก แม้กระทั่งไปโรงหนัง คุณพ่อก็จะให้ดูแต่หนังฮอลลีวู้ด ที่ ไม่พากย์เสียงไทย เมื่อตนทำทุกวัน ๆ ก็เกิดความเคยชิน และถูกซึมซับเข้าไปในสมองของเรา ทำให้เราสามารถ พูดได้คล่องแคล่ว แต่ถ้าเมื่อใดที่เราดูรายการทีวีหรือมีศัพท์อะไรแปลกๆ ขึ้นมาสักคำ เราจะพยายาม เปิดดิกชันนารีว่าคำๆ นี้หมายถึงอะไร มันเป็นทฤษฎีที่ง่ายมากๆ อยากให้เพื่อนๆ ลองทำดูบ้าง น้องนิกยังเล่าด้วยว่า ที่โรงเรียนส่งนักเรียนมาอบรมในโครงการ English on Screen ทั้งหมด 6 คน ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายคละเคล้ากันไป ไม่ได้เน้นว่าจะต้องเป็นชั้นไหน หรือโปรแกรมวิชา อะไรเป็นพิเศษ หลังจากที่ได้เข้าไปเรียนแล้ว ตนมีความรู้สึกว่า สนุกดี มีการเอ็นเตอร์เทนนักเรียนอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้สึกเบื่อเลย เป็นการเรียนภาษาอังกฤษที่แตกต่างจากเรียนในห้องเรียนมากทีเดียว เพราะการเรียนภาษาใน โรงภาพยนตร์ เขาจะให้เราดูภาพยนตร์ แล้วเอาคำศัพท์ยาก ๆ มาสอนควบคู่กับแกรมม่า และทฤษฎีต่าง ๆ ครู ต่างชาติที่สอน เขาก็พยายามให้นักเรียนที่เข้าอบรมได้โต้ตอบและแสดงความคิดเห็นอยู่ตลอดเวลา พร้อมกันนี้ น้องนิกยังบอกด้วยว่า อยากให้มีโครงการดี ๆ อย่างนี้อีก เพราะนอกจากจะเปิดโอกาสให้เยาวชนทุกคนได้เข้าอบรมภาษาอังกฤษฟรีในโรงภาพยนตร์ถึง 2 วันเต็ม ๆ แล้ว ใครโชคดีอาจจะผ่านการสอบคัดเลือกได้ไปเรียนภาษาอังกฤษฟรีที่ต่างประเทศด้วย ด้าน น้อง มุย-เด็กหญิงถิรตา ถิราติ นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เผยว่า ทางโรงเรียนติดประกาศว่าจะมีการอบรมภาษาอังกฤษ โครงการ English on Screen ที่ โรงภาพยนตร์ ตนก็เลยสมัครเข้ามาอบรมด้วย โดยมาอบรมครั้งนี้โรงเรียนส่งเข้ามา 7-8 คน แม้จะเป็นแค่การอบรมภาษาอังกฤษเพียง 2 วัน แต่ตนก็ได้ศัพท์ใหม่ ๆ เยอะมาก รวมทั้งทักษะการฟัง พูด เขียน หรือแม้แต่แกรมม่า ที่สำคัญตลอดระยะที่อบรม ตนไม่รู้สึกเบื่อเลย กลับสนุกสนานมากกว่า เพราะครูเขารู้จักวิธีการสอนที่ไม่ทำให้ เราเบื่อ ในขณะที่เราเรียนในห้องเรียน พอถึงวิชาภาษาอังกฤษเราจะรู้สึกซีเรียสมากเลย น้องมุย ยังบอกด้วยว่า ตนดีใจมากที่ผ่านการคัดเลือกจนได้ไปอบรมคอร์สเรียนภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อนฟรีที่ออสเตรเลีย ซึ่งการเดินทางไปครั้งนี้นอกจากจะได้เรียนภาษาอังกฤษจากครูฝรั่งเจ้าของภาษาโดยตรงแล้ว ยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวต่างชาติ ที่สำคัญตนจะได้เพื่อนเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว นอกจากนี้ น้องมุย ยังเผยถึงเคล็ดลับการเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งด้วยว่า ตั้งใจเรียนในห้องเรียน เมื่อกลับมาบ้านก็ให้ทบทวนที่เรียนในแต่ละวัน ที่สำคัญตนชอบดูหนังฮอลลีวู้ดในโรงภาพยนตร์มาก เน้นว่าต้องเป็นหนังซาวด์แทรกที่พูดภาษาอังกฤษอย่างเดียว อย่าดูหนังพากษ์ไทยเด็ดขาด นอกจากนี้ ก็ต้องอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ ฟังเพลงภาษาอังกฤษเยอะ ๆ แล้วคุณจะประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษค่ะ -3- ส่วน นายไอลวิล โปตระนันทน์ หรือ น้องอัย นักเรียนชั้น ม.6 โปรแกรมศิลป์-คำนวณ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ลูกชายอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา นายมีพาศน์ โปตระนันทน์ กล่าวว่า ตนดีใจ มากที่ผ่านการสอบคัดเลือกไปเรียนคอร์สภาษาอังกฤษที่ ออสเตรเลีย ฟรี ก่อนหน้านี้ตนได้สมัครเข้าอบรมภาษา อังกฤษในโครงการ English on Screen ก่อน หลังจากอบรมเสร็จ 2 วันเขาก็ให้ทำข้อสอบเพื่อวัดผลความรู้ ที่ได้อบรมตลอดระยะเวลา 2 วัน ตอนที่ทำข้อสอบไม่ได้คิดว่าจะได้ เพราะมีนักเรียนเข้าอบรมรวมแล้วกว่า 500 คน พอทราบผลว่าเราติด 1 ใน 11 คน ก็ดีใจมาก และตั้งใจว่าจะเก็บเกี่ยวความรู้ที่ได้จากการเรียนภาษาอังกฤษ ภาคฤดูร้อนให้มากที่สุด ที่ผ่านมาตนเคยไปเรียนภาษาอังกฤษในต่างประเทศอยู่ตลอดเวลา แล้วแต่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะส่งไป เรียนที่ไหน ทั้งที่อเมริกาและแคนาดา ซึ่งแต่ละครั้งจะอยู่ประมาณ 1-2 เดือน แต่สำหรับครั้งนี้ถือเป็นอะไรที่พิเศษมาก ๆ เพราะมีการอบรมในไทยก่อน แล้วถึงคัดนักเรียนที่เข้าอบรมไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลีย ตนยอมรับว่าการเรียนภาษาในโครงการนี้ค่อนข้างมีความแตกต่างจากที่เรียนในห้องเรียนมาก ในห้อง เรียนจะสอนแต่แกรมม่า และคำศัพท์ทั่วไปเท่านั้น แต่การสอนในโรงภาพยนตร์ครูต่างชาติที่สอนจะเน้นเรื่องการ พูดและฟัง ซึ่งเด็กไทยค่อนข้างจะอ่อนในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก น้อง อัย ยังกล่าวด้วยว่า การที่จะเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ดีนั้น เราต้องฝึกฝนบ่อยๆ การดูหนังใน โรงภาพยนตร์ที่พากย์ภาษาอังกฤษ จะช่วยให้เราจำและนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้เยอะกว่าการเรียน ในห้องเรียน เพราะคำพูดในหนัง คือ คำพูดที่ฝรั่งใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แล้วพยายามหัดพูดหัดฟังตามหนัง รับรองว่าถ้าเราทำได้ทุกวัน เราก็สามารถพูดฟังภาษาอังกฤษเหมือนเจ้าของภาษาได้แน่นอน ปิดท้ายด้วย น้องปราง-น.ส.พิมพ์ปราง บุณยสมิต นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ลูกสาว นายกฤษฎา บุณยสมิต อัยการฝ่ายหารือและสัญญา 3 สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เคล็ดลับการเรียนภาษาอังกฤษ คือ เวลาเรียนในห้องเรียนให้ตั้งใจเรียน คอยฟังว่าครูพูดอะไร หรือเน้นศัพท์ หรือแกรมม่าตรงไหนบ้าง จากนั้นพยายาม short note ลงในสมุดโน้ตเล็ก ๆ ซึ่งเราสามารถเข้าใจ ได้ง่ายๆ พอถึงเวลาสอบเราก็เอา short note นั้นมาท่อง แค่นี้ก็ทำให้เราสามารถเก่งภาษาอังกฤษได้แล้ว น้องปราง ยังบอกด้วยว่า การอบรมภาษาอังกฤษของโครงการ English on Screen เป็นโครงการที่ดี ที่อยากให้มีอีกต่อไปเรื่อย ๆ เป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้ามาอบรมกับครูต่างชาติเจ้าของภาษาจริง ๆ แม้จะแค่ 2 วัน แต่นักเรียนที่เข้ารับการอบรมกลับได้รับความรู้ด้านภาษาอังกฤษจริง ๆ และยังเป็นการเรียนที่ค่อนข้างสนุก ตื่นเต้น ไม่น่าเบื่อเหมือนอย่างที่เรียนในห้องเรียนแน่นอน ขอได้รับความขอบคุณอย่างสูง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ : คุณ ณัษฐพร ชูวงศ์ โทร. 02-664-9966 โทรสาร 02-664-9960