มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์จัดกิจกรรมเนื่องในวันเบาหวานโลก

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์จัดกิจกรรมเนื่องในวันเบาหวานโลก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(14 พฤศจิกายน ของทุกปี) เพื่อรณรงค์ให้เกิดความตื่นตัว และตระหนักปัญหาของโรคเบาหวาน บุคลากรด้านสาธารณสุขทั่วภาคใต้ร่วมกว่า 350 คน สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จัดกิจกรรมเนื่องในวันเบาหวานโลก ประจำปี 2552 เพื่อรณรงค์ให้เกิดความตื่นตัวและตระหนักปัญหาของโรคเบาหวาน เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา ณ อาคารเรียนรวม 5 มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ซึ่งในพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ไทย ทิพย์สุวรรณกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุม โดยได้รับความสนใจจากแพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักโภชนาการด้านอาหาร นักศึกษาและบุคลากรด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องทั่วภาคใต้ เข้าร่วมจำนวน 350 คน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัลลา ตันตโยทัย คณบดีสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และเลขาธิการสมาคมผู้ให้ความรู้เบาหวาน กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมเนื่องในวันเบาหวานโลกจัดขึ้น เพื่อให้นักศึกษาด้านวิทยาการสุขภาพ บุคลากรด้านสุขภาพจากสถานพยาบาลและหน่วยบริการสุขภาพในชุมชน ตลอดประชาชนที่สนใจมีความรู้ความเข้าใจที่ทันสมัยเกี่ยวกับโรคเบาหวาน ได้เรียนรู้แนวทางการป้องกันโรคและการดูแลรักษาผู้เป็นเบาหวานจากทีมงานที่มีการปฏิบัติที่ดี อันจะนำไปสู่การพัฒนาการทำงานด้านเบาหวานให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้มีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับสมาคมผู้ให้ความรู้เบาหวาน ในการพัฒนาประสิทธิภาพการให้ความรู้เรื่องโรคเบาหวานที่ได้มาตรฐานและการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งในอนาคตจะมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานแก่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ คาดว่า จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความตระหนักให้คนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของโรคเบาหวานอีกด้วย โอกาสนี้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เทพ หิมะทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเทพธารินทร์และกรรมการมูลนิธิเพื่อพัฒนาการบริบาลผู้ป่วยเบาหวาน กล่าวบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ Update การป้องกันโรคเบาหวาน การวินิจฉัยและการรักษา ว่า สถานการณ์ของโรคเบาหวานในปัจจุบันมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นและเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลก โดยจำนวนผู้ป่วยเบาหวานมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคนี้นอกจากกรรมพันธุ์แล้ว การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้การใช้ชีวิตมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่น รถยนต์ คอมพิวเตอร์ ลิฟต์ บันไดเลื่อน พฤติกรรมการบริโภคอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคอ้วนและการขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลทำให้คนเป็นโรคเบาหวานได้เร็วขึ้น ดังนั้นการป้องกันโรคเบาหวานที่ดีที่สุดนั่นคือต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน การบริโภคอาหาร และหันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เทพ หิมะทองคำ กล่าวอีกว่า การรักษาโรคเบาหวานต้องปรับทัศนคติของผู้ป่วยเบาหวานให้เข้าใจว่า ผู้ป่วยเบาหวานต้องดูแลตัวเองเป็นหลัก นอกจากนั้นผู้ดูแลสุขภาพของผู้ป่วย อาทิ แพทย์ พยาบาลและผู้เกี่ยวข้องต่างๆ ต้องเข้าใจความต้องการของผู้ป่วยและรับฟังปัญหาจากผู้ป่วยมากขึ้น สิ่งสำคัญคือการรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปหันมาตระหนักถึงปัญหาของโรคเบาหวานโดยการดูแลตัวเองตั้งแต่ยังไม่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน นอกจากนั้นควรมีการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีเพราะหากเจอโรคเบาหวานจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หากประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและตระหนักในเรื่องดังกล่าวแล้วจะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลโรคดังกล่าวปริมาณมหาศาลทีเดียว นอกจากนี้ยังมี การอภิปรายเรื่อง การให้การศึกษาแก่ผู้เป็นเบาหวาน โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัลลา ตันตโยทัย และ Mr. David Beran, Project Coordinator, International Insulin Foundation การบรรยายเรื่อง การดูแลผู้เป็นเบาหวานของโรงพยาบาลชุมชน : กรณีโรงพยาบาลครบุรี โดย พญ.สกาวเดือน นำแสงกุล เจ้าของรางวัล Terumo Diabetes Patient Care Team Award 2009 ประเภทโรงพยาบาลชุมชนและทีมงาน นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการมหานครปลอดเบาหวานเพื่อเป็นฐานให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานแก่ผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook