ตกขาว สัญญาณสุขภาพที่สังเกตได้

ตกขาว สัญญาณสุขภาพที่สังเกตได้

ตกขาว สัญญาณสุขภาพที่สังเกตได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ตกขาว" สัญญาณสุขภาพที่สังเกตได้

เอ๋..อะไรเนี่ยทำไม มีมูกใสๆไหลออกมาจากช่องคลอดล่ะ เราเป็นอะไรหรือเปล่านะ หรือว่าเราเป็นโรคกันแน่เนี่ย!! อ่ะๆ สาวๆ อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ รู้ไว้เลยว่านั่นคือ "ตกขาว" ไม่ใช่ สิ่งที่น่ารังเกียจอย่างที่คิดนะคะ แต่เป็นสัญญาณสุขภาพผู้หญิงที่เพื่อนๆ สามารถสังเกตได้ด้วยตัวเอง......

Q : ตกขาวคืออะไร

A : เป็นของเหลวไหลออกมาจากช่องคลอด อาจมีลักษณะมูกใส สีขาวขุ่น หรือสีเหลืองอ่อนก็เป็นได้ค่ะ จะว่าไปแล้วผู้หญิงกับตกขาวเป็นของคู่กัน เพราะตกขาวเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ไม่ได้หมายถึง การเป็นโรคหรือเป็นมะเร็ง หรือผิดปกติแต่อย่างใด แต่เป็นสัญญาณสุขภาพทางเพศ สุขอนามัยส่วนตัว ทั้งนี้ตกขาวอาจเป็นปกติ หรือไม่ปกติก็ได้ บางช่วงเวลาอาจมีปริมาณมากขึ้นเล็กน้อยและมีลักษณะลื่นใส เช่น ช่วงก่อนและหลังมีรอบเดือน ช่วงไข่ตก หรือในภาวะตั้งท้อง

Q : สุขภาพทางเพศของผู้หญิงสังเกตจากตกขาวได้อย่างไร

A : เมื่อเพื่อนๆ มีอาการตกขาวเป็นน้ำหล่อลื่นไหลออกมาจากช่องคลอด นั่นแสดงถึงสุขอนามัยส่วนตัวมีภาวะสมดุลและสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ค่ะ นอกจากนี้ตกขาวยังช่วยให้รู้ได้ว่าระบบสืบพันธ์ภายในของผู้หญิงนั้นเกิดการ ติดเชื้อหรือไม่ โดยสาวๆ สังเกตได้จากสี กลิ่นของตกขาว ตลอดจนอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น คัน ปวดเจ็บช่องคลอด ปวดท้องรุนแรง มีไข้ เป็นต้น แน่นอนว่าถ้าเป็นอาการตกขาวปกติ สีจะไม่เปลี่ยน ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีเศษเนื้อเยื่อเจือปนหรือเป็นฟองค่ะ

Q : ถ้าตกขาวเปลี่ยนสีแสดงให้เรารู้ว่า...

A : ถ้าวันดีคืนดีเรามีตกขาวผิดปกติ ซึ่งบางคนอาจมีตกขาวขุ่นข้นเป็นครีม ขณะที่บางคนอาจมีสีเทาอ่อน สีเขียวขุ่น และมีกลิ่นเหม็น มีอาการผิดปกติร่วมด้วยแสดงว่ามีการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ควรไปพบคุณหมอ ค่ะ โดยคู่มือรู้จักตัวเองหรือยัง?ของแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สรุปสาเหตุการติดเชื้อดังกล่าวเกิดได้จาก การติดเชื้อภายใน การติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ และการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์

Q : น้องจิ๋มผู้หญิงมักติดเชื้ออะไรบ้างนะ

A : สุขอนามัยทางเพศของผู้หญิงมักติดเชื้อราแคนดิด้าที่ช่องคลอด ซึ่งเจ้าเชื้อพวกนี้ปะปนกับแบคทีเรียชนิดดีที่อยู่ในร่างกายของเราชื่อแลคโต บาซิลัส คอยคุมเชื้อราไม่ให้ทำร้ายช่องคลอด ส่งผลให้เกิดการอักเสบบริเวณจุดซ้อนเร้นเพราะแบคทีเรียมีจำนวนมาก หรือแม้แต่การเป็นพยาธิ ที่เป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

เพียงแต่ผู้ชายเป็นแล้วไม่มีค่อยอาการ ขณะที่ผู้หญิงเมื่อได้รับเชื้อจากคู่จะมีอาการตกขาวมีกลิ่นเหม็นและเปลี่ยน สี มีอาการคันแสบระคายเคืองเวลาปัสสาวะ เท่านั้นยังไม่พอผู้หญิงยังเสี่ยงติดเชื้อหนองในได้อีกจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ป้องกัน หรือการสัมผัสเชื้อหนอในโดยตรง อาการเหล่านี้หากเกินที่จะดูแลตัวเองได้ควรไปพบแพย์โดยเร็วเพื่อทำการรักษา แต่หากเพียงคันหรือมีการระคายเคืองเพราะใช้น้ำยาล้างจุดซ้อนเร้น ควรหยุดใช้แล้วหันมาใช้น้ำเปล่าล้างทำความสะอาดแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่เพื่อนๆ สามารถดูแลตัวเองได้ในเบื้องต้นค่ะ

Q : เวลารู้สึกคันที่บริเวณอวัยวะเพศเพราะเหตุใดแล้ว ควรดูแลสุขภาพน้องจิ๋มอย่างไรดี

A : อาการคันบริเวณจุดซ้อนเร้นอาจเกิดจากการระคายเคืองหรืออาจติดเชื้อในระบบสืบ พันธ์ ไม่ได้แสดงว่าเราเป็นผู้หญิงไม่ดีนะคะ แต่เพราะผู้หญิงเรามักไม่ถูกสอนให้รู้จัก ‘จิ๋ม' จึงไม่รู้ว่าควรดูแลตัวเองอย่างไร วันนี้มี 7 วิธีดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากการติดเชื้อมาฝากกันค่ะ

1. ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศ สัมพันธ์
2. ปัสสาวะทุกครั้งทั้งก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์
3. ล้างอวัยวะเพศภายนอกทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์
4. ไม่สวนล้างช่องคลอด เพราะการสวนล้างช่องคลอดจะไปทำลายน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติที่มีประโยชน์
5. ไม่ใช้สมุนไพรที่ทำให้ช่องคลอดแห้ง เพราะจะทำให้ระคายเคืองได้ง่ายในขณะมีเพศสัมพันธ์ ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายไปด้วย
6. ไม่ใส่กางเกงที่รัดหรือคับจนเกินไป เพราะจะทำให้บริเวณอวัยวะเพศอับชื้นและเสียดสีกับกางเกง
7. ตากชุดชั้นในในที่โล่งแจ้ง โดนแสงแดดเพื่อฆ่าเชื้อ อย่าตากในห้องน้ำหรือใต้ชายคา

ที่มา : talkaboutsex

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook