สัมผัสตัวตน ยิปโซ-รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์

สัมผัสตัวตน ยิปโซ-รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์

สัมผัสตัวตน ยิปโซ-รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อีกหนึ่งสาวสวยที่พลิกคาแร็กเตอร์จากสาวแอ๊บแบ๊วที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในภาพยนตร์เรื่อง 32 ธันวา และพิธีกรรายการสตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก ยิปโซ-รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์ มารับบทเป็นหญิงสาวสวยใสสายตาสั้น (มาก) ในภาพยนตร์เรื่อง เราสองสามคน แต่จะเปลี่ยนไปจนน่าสนใจแค่ไหน ตาม WP ไปเจาะลึกถึงตัวตนของเธอคนนี้กันเลยค่ะ

+ ลุคใหม่ที่ไม่แอ๊บแบ๊ว
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ยิปโซ รับบทเป็นเต๋อค่ะ เด็กผู้หญิงที่สายตาสั้นมากๆ ถ้าถอดแว่นก็จะมองอะไรไม่เห็นเลย แต่มีความมั่นใจในตัวเองระดับหนึ่ง กับบทบาทนี้ค่อนข้างจะเหมือนกับยิปโซ สมัยอายุน้อยกว่านี้หน่อย (หัวเราะ) คือเป็นคนชอบไปเที่ยว นิสัยลุยๆ สบายๆ ไม่เป็นผู้หญิงจ๋า แต่ก็ไม่ได้แมนจนกลายเป็นสาวห้าว ซึ่งผู้กำกับต้องการให้ตัวละครทุกตัวในหนังเรื่องนี้มีความเป็น Realistic ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง หรือการพูดจา แต่ด้วยความที่ยิปโซทำงานพิธีกร และแสดงหนังที่มีคาแร็กเตอร์แบบวัยรุ่น เลยค่อนข้างติดวิธีการพูดแบบวัยรุ่น พูดแล้วเหมือนตัวการ์ตูน พอมาแสดงเรื่องนี้เหมือนต้องล้างทิ้งให้หมด บางครั้งยิปโซรู้สึกว่าพูดแบบนี้คือการพูดธรรมดา แต่ผู้กำกับบอกว่ายิปโซประดิษฐ์เสียง กำลังทำการแสดงอยู่ ให้เปลี่ยนมาพูดจาแบบที่คนปกติพูดกัน (หัวเราะ) เหมือนกับว่ายิปโซไม่ได้สัมผัสคาแร็กเตอร์ของคนปกติมาสักพักแล้ว เพราะที่ผ่านมา 3-4 ปี อยู่กับคาแร็กเตอร์ที่ต้องใช้ทำงานมาตลอด ตอนนี้เลยต้องล้างภาพใหม่ ดึงตัวเองให้นิ่งขึ้น พูดจาพยายามให้เป็นปกติ

+ เรื่องท้าทายของเราสองสามคน
อีกหนึ่งความยากของการเล่นหนังเรื่องนี้คือ ผู้กำกับจะไม่ให้ยิปโซอ่านบทก่อน เพราะรู้ว่ายิปโซเป็นคนคิดไว เวลาอ่านบทยิปโซจะคิดไปก่อนเลยว่าต้องพูดแบบไหน ทำท่าทางแบบไหน เดินไปตรงไหน เป็นไปโดยอัตโนมัติจนกลายเป็นว่ายิปโซกำลังทำการแสดงอยู่ เพราะฉะนั้นเลยต้องใช้วิธีให้ยิปโซเล่นโดยไม่เห็นบทมาก่อน จนสุดท้ายผู้กำกับก็สามารถกระชากภาพความเป็นตัวตนของยิปโซออกมาได้ ทั้งๆ ที่ตอนแสดงยิปโซกลับรู้สึกไม่มั่นใจเลย แต่แบบนี้แหละที่หนังเรื่องนี้ต้องการ

 + ?ผู้ชาย? ที่เป็นทั้งเพื่อนและพ่อ
เรื่องที่ยิปโซเป็นคนคิดไว ยิปโซได้มาจากพ่อเลยค่ะ เพราะตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ยิปโซเป็นคนที่ติดพ่อมาก จนถึงตอนนี้ก็ยังติดพ่ออยู่ ไปดูหนังกับพ่อสองคนบ่อยมาก ยิปโซจะรู้สึกแฮปปี้ทุกครั้งที่ได้อยู่กับพ่อ เพราะเราสองคนเหมือนกันมาก ชอบกิน ชอบเที่ยวเหมือนกัน อยู่ด้วยกันแล้วทำอะไรก็ได้ ยิปโซรู้ว่าการไปเที่ยวมันทำให้พ่อมีความสุขมาก ยิปโซเลยตั้งใจว่าจะพาพ่อไปเที่ยวอิตาลี เพราะยิปโซจำได้ว่ามันคือความฝันของพ่อ ตอนที่ยิปโซเป็นเด็กจะชอบถามพ่อว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน และพ่อก็จะตอบเหมือนเดิมทุกครั้งว่าอยากไปอิตาลี ถ้าวันหนึ่งที่ยิปโซเก็บเงินได้มากพอ ยิปโซจะพาพ่อไปเที่ยวที่อิตาลีอย่างแน่นอนค่ะ (ยิ้ม)

+ อาชีพในฝันที่ไม่เป็นจริง
ตั้งแต่เด็กๆ ยิปโซคิดมาตลอดว่า โตขึ้นจะต้องเป็น 'แอร์โฮสเตส' เพราะยิปโซชอบสนามบิน ชอบเห็นเวลาเครื่องบินขึ้น-ลง เวลานั่งเครื่องบินต้องนั่งริมหน้าต่าง จะได้มองเห็นเครื่องบินชัดๆ ค่ะ (หัวเราะ) ดูแล้วจะมีความสุขมาก ยิปโซชอบแอบมองเวลาแอร์โฮสเตสทำงาน มันเป็นอาชีพที่มีเสน่ห์ ถึงแม้ว่าใครจะมองว่าคือ คนทำความสะอาด คอยเก็บกวาดบนเครื่องบิน ต้องมานั่งเอาใจดูแลลูกค้า แต่สำหรับยิปโซแล้วแอร์โฮสเตสคืออาชีพที่ดูดี และความอดทนก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของอาชีพนี้ค่ะ แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่อยากให้ยิปโซทำงานนี้ เพราะกลัวเครื่องบินตก

My Favourite
- ครีมกันแดด : ของรักของหวงที่ขาดไม่ได้ แถมบางครั้งยังแอบพกไว้มากกว่า 1 ขวด
- ที่ดัดขนตา : เพราะรักขนตาเป็นชีวิตจิตใจ จึงต้องดูแลพิเศษ
- กล้องถ่ายรูปโพลารอยด์ : ของเล่นชิ้นใหม่ สำหรับเก็บภาพความทรงจำที่ดีๆ
- โทรศัพท์ : เครื่องมือติดต่อสื่อสาร ไว้โทรนัดเจอกับคุณพ่อ
- ลำโพง : สำหรับวันพักผ่อนสบายๆ นั่งฟังเพลงชิลๆ


เรื่อง : กุพชกา ภาพ : สารินทร์ พรดอนก่อ
update by supermoon

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook