มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.)

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.)

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Mahasarakham University (MSU)

ก่อตั้ง: พ.ศ. 2537
ต้นไม้ประจำสถาบัน: ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูน)
สีประจำสถาบัน: สีเหลือง-เทา
จำนวนคณะ: 15 คณะ 1 วิทยาลัย 2 โครงการจัดตั้งคณะ
จำนวนนักศึกษา: ประมาณ 37,342 คน
อัตราค่าเล่าเรียน: หน่วยกิตละประมาณ 200-1,500 บาท
ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์:
วิทยาเขตใหม่ 41/20 ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม
โทร. 0 4375 4321-40
วิทยาเขตเก่า 269 ถนนนครสวรรค์ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม
เว็บไซต์: www.msu.ac.th

 "คำขวัญ - ‘พหูนํ ปณฑิโต ชีเว' หมายความว่า ‘ผู้มีปัญญาพึงอยู่เพื่อมหาชน'"

ประวัติ
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือกำเนิดมาจากการเป็น "วิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม" ซึ่งตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2511 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะขยายการศึกษาชั้นสูงไปสู่ต่างจังหวัด เริ่มแรกตั้งอยู่ที่ ถ.นครสวรรค์ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม บนเนื้อที่ 197 ไร่ และได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น "มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม" ในปี พ.ศ. 2517 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2537 จึงได้แยกตัวเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศภายใต้ชื่อ "มหาวิทยาลัยมหาสารคาม" โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย ในพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัย และประกาศในราชกิจจานุเบกษา นับเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งที่ 22 ของประเทศไทย และเริ่มย้ายการเรียนดการสอนบางหน่วยงานไปยังสถานที่แห่งใหม่ที่ ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม บนเนื้อที่ประมาณ 1,300 ไร่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบริหารการทั้งระดับปริญญาตรี โท และเอกในขณะนี้
มหาวิทยาลัยมหาสารคามนับเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงแห่งหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย มีนโยบายกระจายโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เพื่อตอบสนองความต้องการของท้องถิ่นและภูมิภาค โดยจัดตั้งหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นวิทยาเขตและศูนย์บริการเขตพื้นที่ต่างจังหวัดอีกหลายแห่ง
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหาสารคามมีอายุ 14 ปี หากนับตั้งแต่การก่อตั้งในฐานะมหาวิทยาลัยอันเป็นเอกเทศแห่งนี้ แต่หากนับรวมตั้งแต่แรกเริ่มสถานการศึกษาแห่งนี้ถูกจัดตั้งมาตั้งแต่ปี 2511 จึงมีอายุ 40 ปีแล้วมี 2 วิทยาเขตการศึกษา คือที่อำเภอเมือง (เรียกว่า ม.เก่า) และอำเภอกันทรวิชัย (เรียกว่า ม.ใหม่)

สัญลักษณ์
ตราสัญลักษณ์ของสถาบันคือ "ตราโรจนากร" หมายถึง สัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง มีองค์ประกอบเป็นรูปใบเสมา ซึ่งหมายถึง ภูมิปัญญา ภายในมีภาพสัญลักษณ์ขององค์พระธาตุนาดูน หมายถึง คุณธรรมความดี ด้านล่างเป็นสุริยรังสี หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง ที่แผ่ขึ้นจากผ้าลายขิด ซึ่งหมายถึง ภูมิปัญญาและมรดกทางวัฒนธรรมแห่งอีสาน และทั้งหมดนี้อยู่เหนือคำขวัญภาษาบาลีว่า "พหูนํ ปณฺฑิโต ชีเว" หมายความว่า "ผู้มีปัญญาพึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน" และหากรวมความหมายทั้งหมดแล้วก็คือ ความเจริญรุ่งเรืองอันเป็นผลจากความรู้และคุณธรรม ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น

สีประจำสถาบันได้แก่ "สีเหลือง-เทา" โดยสีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง ความดีงาม ความอุดมสมบูรณ์ สีเทา หมายถึง ความคิด ปัญญา ดังนั้นความหมายโดยรวมคือ ความเจริญรุ่งเรืองอันเกิดจากปัญญาและความดีงาม

ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ได้แก่ "ต้นราชพฤกษ์" หรือ "ต้นคูน"

มีอะไรเรียนบ้าง
1. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต
ภาษาไทย
ภาษาเพื่อการสร้างสรรค์งานสื่อสิ่งพิมพ์
ภาษาอังกฤษ
ภาษาจีน
ภาษาญี่ปุ่น
ภาษาลาว
ภาษาเกาหลี
ภาษาฝรั่งเศส
ภาษาเวียดนาม
ภาษาเขมร
ประวัติศาสตร์
ศาสนาและปรัชญา
การพัฒนาชุมชน
International Programmes
Thai as a Foreign Language
English for International Communication
2.คณะวิทยาศาสตร์
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
ฟิสิกส์
ชีววิทยา
เคมี
สถิติ
ฟิสิกส์ประยุกต์
คณิตศาสตร์
จุลชีววิทยา
3.คณะศึกษาศาสตร์
หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต
วิทยาศาสตร์ทั่วไป (5 ปี)
คณิตศาสตร์ (5 ปี)
สังคมศึกษา (5 ปี)
ภาษาอังกฤษ (5 ปี)
ภาษาไทย (5 ปี)
การศึกษาปฐมวัย (5 ปี)
การศึกษาพิเศษ (5 ปี)
เทคโนโลยีและการสื่อสารการศึกษา
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
จิตวิทยา
วิทยาศาสตร์การกีฬา
4. คณะเทคโนโลยี
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
เทคโนโลยีการอาหารและโภชนาการ
เทคโนโลยีชีวภาพ
เทคโนโลยีการผลิตพืช
พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร
นวัตกรรมภูมิทัศน์และการจัดการ
5. คณะพยาบาลศาสตร์
หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต
พยาบาลศาสตร์ (ปกติ และต่อเนื่อง 2 ปี)
6. คณะการบัญชีและการจัดการ
หลักสูตรบัญชีบัณฑิต
บัญชี (ปกติ และต่อเนื่อง)
หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต
การตลาด (ปกติ และต่อเนื่อง)
การจัดการ (ปกติ และต่อเนื่อง)
คอมพิวเตอร์ธุรกิจ (ปกติ และต่อเนื่อง)
การบริหารการเงิน
เทคโนโลยีสารสนเทศธุรกิจ
การจัดการการประกอบการ
การจัดการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
การจัดการทรัพยากรมนุษย์
หลักสูตรเศรษฐศาสตรบัณฑิต
เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ
International Programme
International Business
7. คณะเภสัชศาสตร์
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต
บริบาลเภสัชกรรม (6 ปี)
8. คณะวิศวกรรมศาสตร์
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
วิศวกรรมศาสตร์
วิศวกรรมชีวภาพ
วิศวกรรมโยธา (วิศวกรรมชนบท) (เทียบเข้า)
วิศวกรรมเครื่องกล (พลังงาน) (เทียบเข้า)
วิศวกรรมการผลิต
เทคโนโลยีการจัดการ
9. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์
หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต
สถาปัตยกรรม (5 ปี)
สถาปัตยกรรมเมืองและชุมชน (5 ปี)
สถาปัตยกรรมภายใน (5 ปี)
หลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต
นฤมิตรศิลป์
10. คณะศิลปกรรมศาสตร์
หลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต
ทัศนศิลป์
ศิลปะการแสดง
11. คณะวิทยาการสารสนเทศ
หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต
สารสนเทศศาสตร์
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ปกติ และต่อเนื่อง 2 ปี)
สื่อนฤมิต (ปกติ และต่อเนื่อง 2 ปี)
วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
ภูมิสารสนเทศ
หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต
การสื่อสารมวลชน
12. คณะสาธารณสุขศาสตร์
หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต
สาธารณสุขศาสตร์ (ปกติ และเทียบเข้า)
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
โภชนาการและการจัดการความปลอดภัยในอาหาร (ปกติ และต่อเนื่อง)
13. คณะแพทยศาสตร์
หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต
แพทยศาสตร์ (6 ปี)
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
การแพทย์แผนไทยประยุกต์
14. คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม
หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต
การท่องเที่ยวและการโรงแรม
International Programme
Tourism and Hotel Management
15. คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม
การจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์
สิ่งแวดล้อมศึกษา
16. วิทยาลัยการเมืองการปกครอง
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต
การเมืองการปกครอง
บริหารรัฐกิจและกิจการสาธารณะ
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
นิติศาสตร์
17. โครงการจัดตั้งคณะสัตวแพทยศาสตร์และสัตวศาสตร์
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
สัตวศาสตร์
18. โครงการจัดตั้งวิทยาลัยดุริยางคศิลป์
หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต
ดุริยางคศิลป์

ค่าใช้จ่าย
สำหรับนักศึกษาในระดับปกติ หลักสูตรของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ สารธารณสุขศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ วิทยาการสารสนเทศ วิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ศิลปกรรมศาสตร์ หน่วยกิตละ 200 บาท บวกค่าธรรมเนียมอีกประมาณ 2,000-6,000 บาท (แล้วแต่หลักสูตร) หลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์ และหลักสูตรการท่องเที่ยวและการโรงแรม หน่วยกิตละ 400 บาท บวกค่าธรรมเนียม 6,000 บาท หลักสูตรแพทยศาสตร์ คณะการบัญชีและการจัดการ หน่วยกิตละ 500 บาท บวกค่าธรรมเนียมอีก 5,000-10,000 บาท และหลักสูตรการจัดการท่องเที่ยวและการโรงแรม (นานาชาติ) หน่วยกิตละ 1,500 บาท ค่าธรรมเนียม 10,000 บาท

สิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียน
- สำนักห้องสมุด เป็นศูนย์รวมข้อมูล เช่น หนังสือ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ถึงแม้ว่าหนังสือจะไม่ใหม่มาก แต่ก็เพียงพอต่อความต้องการของนักศึกษา นอกจากนั้นยังมีจุดบริการอินเทอร์เน็ตไว้ด้วย แต่หากนักศึกษาต้องการข้อมูลเชิงลึก ก็แนะนำว่าให้ไปค้นคว้าที่ห้องสมุดของคณะตังเองเพิ่ม
- อาคารบริการกลาง (พลาซ่า) เป็นแหล่งรวมบริการต่างๆ เช่น ศูนย์ซัก อบ รีด ร้านยามหาวิทยาลัย มินิมาร์ท ศูนย์อาหาร ศูนย์บริการอินเทอร์เน็ต ธนาคาร และร้านค้าต่างๆ
- สำนักวิทยาบริการ เป็นแหล่งสะสมและให้บริการสารสนเทศในทุกรูปแบบ
- ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีร้านหนังสือ ร้านมินิมาร์ท ศูนย์ถ่ายเอกสาร และศูนย์รวมไปรษณียภัณฑ์
- อินเทอร์เน็ต มีบทบาทสำคัญในการเรียนที่นี่ เพราะนอกจากจะเป็นศูนย์กลางการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับทุกๆ อย่างในมหาวิทยาลัยแล้ว ยังมีการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อการเรียนการสอน โดยวิชาที่มีการเรียนออนไลน์ นักศึกษาจะสามารถหาอ่านตำราและเอกสารประกอบการเรียนได้ทางอินเทอร์เน็ตเลย ไม่ต้องมาเรียนที่ห้อง ส่วนมากจะเป็นวิชาวิจัยของสายวิทย์ และทางมหาวิทยาลัยก็กำลังส่งเสริมให้มีการเพิ่มการเรียนทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยเฉพาะให้ควบคู่กับการเรียนแบบปกติ
- ห้องบริการการออกกำลังกาย ฟรีสำหรับบุคลากรและนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม รวมถึงบุคคลภายนอกด้วย
- สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัย MSU Radio เป็นสถานีความรู้ ข่าวสารและบันเทิง ส่งสัญญาณในคลื่นความถี่ FM 102.25 MHz นักศึกษาสามารถรับฟังได้ทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต www.msuradio.net
- หน่วยงานส่งเสริมความรู้วิชาการ งานวิจัยและการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของชาติของมหาวิทยาลัย มีบทบาทโดดเด่นในการสร้างความเข้มแข็งของวัฒนธรรมชุมชนท้องถิ่นอีสาน อาทิ โครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มหาสารคาม ศูนย์จารึกอีสานและเอกสารโบราณ ศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวินวิทยา เป็นต้น
- โรงอาหาร ที่วิทยาเขตใหม่ มีโรงอาหารกลางทั้งหมด 3 จุด และมีร้านของแต่ละคณะเล็กๆ น้อยๆ กระจายกันไป โรงอาหารกลางใหม่ติดแอร์ คนจะนิยมมามากเป็นพิเศษ
- หอพักนักศึกษา หอพักภายในมหาวิทยาลัยแบ่งออกเป็น 3 เขต คือ
1. หอพักเขต 1 ประกอบด้วย หอพักหญิงกันทรวิชัย วาปีปทุม บรบือ ยางสีสุราช และหอพักกุดรัง อัตราค่าที่พักอยู่ประมาณคนละ 4,000-5,400 บาทต่อภาคการศึกษา
2. หอพักเขต 2 ประกอบด้วย หอพักนาดูน พยัคฆภูมิพิสัย โกสุมพิสัย เชียงยืน และหอพักชื่นชม อัตราค่าที่พักอยู่ประมาณคนละ 4,000-6,400 บาทต่อภาคการศึกษา
3. หอพักเขต 3 ประกอบด้วย หอพักสุพรรณิการ์ ราชพฤกษ์ การเวก อินทนิล ชวนชม เบญจมาศ ปาริชาต การเกด ชงโค พุทธรักษา ชัยพฤกษ์ ปฐมเวศน์ เฮือนเฮา สำราญ และหอพักนครินทร์ อัตราค่าที่พักอยู่ที่ประมาณ 2,500-6,000 บาทต่อภาคการศึกษา

ทุนการศึกษา
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านทุนทรัพย์แก่นิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคามจึงจัดให้มีทุนการศึกษาหลากหลายประเภทได้แก่
1. ทุนการศึกษารายปี นักศึกษาจะได้รับทุนจนกระทั่งสิ้นสุดปีการศึกษานั้นๆ โดยทุนจะมีมูลค่าแตกต่างกันออกไปตามจิตศรัทธาของเจ้าของทุน เช่น ทุนรายได้มหาวิทยาลัย ทุนเอสโซ่สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ทุกนักกิจกรรม ทุนภูมิพล ทุนมูลนิธิพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นต้น
2. ทุนการศึกษาต่อเนื่อง เป็นทุนที่นักศึกษาได้รับมากกว่าปีเดียว หรือได้รับจนสำเร็จการศึกษา เช่น ทุนบุญรอดเพื่อนิสิตนักศึกษา ทุนคุณหญิงอัมพร ฤชุพันธุ์ ทุนมูลนิธิชิน โสภณพนิช ทุนบริษัทกรุงไทยการไฟฟ้า ทุนเครือเจริญโภคภัณฑ์ ทุนเรียงความ เป็นต้น
3. ทุนการศึกษากู้ยืมที่ต้องชำระคืนโดยไม่คิดดอกเบี้ย เช่น กองทุนศาสตราจารย์ นายแพทย์อดุลย์-อรสา วิริยเวชกุล กองทุนเงินให้กู้ยืมฉุกเฉิน เป็นต้น
4. ทุนการศึกษากู้ยืมที่ต้องชำระคืนพร้อมดอกเบี้ย ได้แก่ กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

ชีวิตนักศึกษา
จังหวัดมหาสารคามได้ชื่อว่าเป็น "สะดือของอีสาน" เพราะอยู่ตรงใจกลางภูมิภาคพอดี เป็นจังหวัดเล็กๆ เงียบๆ ไม่ใช่เมืองศูนย์กลางธุรกิจ หรือศูนย์กลางการท่องเที่ยว แต่ก็เต็มไปด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับนักศึกษาที่ต้องการหาความรู้ทางมานุษยวิทยานอกเวลาเรียน ที่กันทรวิชัย ตัวมหาวิทยาลัยมีชุมชนหมู่บ้าน 2 แห่งขนาบรอบ คือ บ้านขามเรียง และท่าขอนยาง มีถนนหลวงตัดผ่าน

เพื่อให้นิสิตของมหาวิทยาลัยได้พักในหอพักที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยสำหรับการเข้าพัก จึงได้มีกฎระเบียบว่านิสิตชั้นปีที่ 1 และ 2 ต้องพักในหอพักของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือหอพักเครือข่ายภายใต้กำกับดูแลของมหาวิทยาลัยเท่านั้น และในช่วงว่างจากการเรียน นักศึกษานิยมรวมตัวกันที่หอพักเพื่อจับกลุ่มกันอ่านหนังสือ ทบทวนความรู้ หรือทำรายงาน ตอนเย็นนักศึกษาชายจะนิยมเล่นฟุตบอล บาสเก็ตบอล แบดมินตัน เทนนิส และที่นิยมกันมากคือ หมากกระดาน จะเล่นกันตามร่มไม้หรือใต้อาคารเรียน หรือไม่ก็เล่นอินเทอร์เน็ตกัน แต่ก็มีหลายคนที่เลือกที่จะไปเดินเที่ยวตลาดนัดเปิดท้ายขายของในเมือง ซึ่งเปิดประมาณ 5 โมงเย็นถึง 5 ทุ่ม ทุกวันศุกร์-เสาร์

การรับน้องที่นี่จะเป็นการเชียร์กลางและเชียร์คณะ และยังมีการรวมตัวกันเพื่อเล่นกีฬาราชพฤกษ์ ซึ่งแต่ละคณะจะส่งตัวแทนมาแข่งกีฬากัน นอกจากนั้นก็ยังมีงานลอยกระทงที่นับเป็นงานใหญ่ประจำปี มีการออกร้าน บรรยากาศคล้ายงานวัด นักศึกษานิยมมาเที่ยวในตัวมหาวิทยาลัยเพราะมีสระน้ำให้ลอยกระทงถึง 3 แห่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook