มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 15

มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 15

มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 15
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มาแล้วครับ!!! งานที่คนรักหนังสือรอคอย  สำหรับมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 15 (BOOKEXPO THAILAND 2010) โดยปีนี้สำนักพิมพิ์ต่างๆขนหนังสือมากมายมาลดราคา แถมในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย

 มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 15 (BOOKEXPO THAILAND 2010) จะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 21 - 31 ตุลาคม 2553 (รวมทั้งสิ้น 11 วัน) ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยผู้สนใจสามารถเดินเลือกซื้อหนังสือและร่วมกิจกรรมต่างๆได้ ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.

มาดูกันดีกว่าว่า มหกรรมหนังสือระดับชาติ ปีนี้มีอะไรเด็ดๆบ้าง ...

 นิทรรศการและกิจกรรมในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 15

>>>บริเวณห้องบอลรูม

• นิทรรศการและกิจกรรม "ห้องสมุดหนังสือใหม่ ปี 2553" ซึ่งจะจัดแสดงหนังสือใหม่ที่ตีพิมพ์ในปี 2552-ปัจจุบัน จำนวนประมาณ 2,000 ปก จาก 11 หมวด ได้แก่ หนังสือสำหรับเด็ก วรรณกรรมเยาวชน นวนิยาย การ์ตูน ประวัติศาสตร์ คู่มือ/แบบเรียน ศิลปวัฒนธรรมและสารคดี ปรัชญาและศาสนา อาหารและสุขภาพ ท่องเที่ยว และทั่วไป เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์หนังสือใหม่ให้ผู้ชมงานสามารถเลือกซื้อหาได้ในงาน รวมทั้งจะมีโซนพิเศษที่ให้บริการยืม-คืนหนังสือแก่บุคคลทั่วไป ท่าน 1 เล่มเป็นเวลา 2 วัน เพียงท่านแสดงบัตรประชาชน
นอกจากนี้ น้องๆ จะเพลิดเพลินกับการเรียนรู้นอกห้องเรียนผ่านกิจกรรมสำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว ในช่วงบ่ายของทุกวันที่บริเวณเวทีห้องสมุดฯ และอีกหนึ่งกิจกรรมพิเศษสำหรับแฟนพันธุ์แท้หนังสือทำมือหรือหนังสือ Indy ท่านสามารถชมและเลือกซื้อหนังสือทำมือจากนักเขียนหน้าใหม่ภายในบริเวณนิทรรศการนี้เช่นกัน

• กิจกรรมส่งเสริมการอ่านจากมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก

>>>บริเวณฮอลล์เอ
• ร้านภูฟ้า  จำหน่ายสินค้าหัตถกรรมที่เป็นผลิตภัณฑ์ของชาวบ้านในถิ่นทุรกันดารในโครงการส่งเสริมอาชีพตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เช่น ผ้าทอมือ ชาสมุนไพร และของที่ระลึกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งบางชิ้นได้รับพระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาตีพิมพ์บนผลิตภัณฑ์

• นิทรรศการ "สมเด็จพระปิยมหาราชกับการปฏิรูปการศึกษา" เพื่อน้อมรำลึก 100 ปีวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในวันที่ 23 ตุลาคม 2553 ซึ่งจะเสนอพระปรีชาญาณและพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อปวงชนชาวไทยในสมัยนั้นได้มีโอกาสเข้ารับการศึกษาในระบบโรงเรียนตามแบบตะวันตกหรือที่รู้จักกันในนาม "การปฏิรูปการศึกษา" แต่เดิมจะต้องเป็นผู้มีอันจะกิน เจ้านาย ชนชั้นสูง หรือ ขุนนาง เท่านั้นจึงจะมีเงินจ้างครูไปสอนบุตรหลานที่บ้าน ส่วนชาวบ้านทั่วไปจะพาบุตรชายไปฝากพระสงฆ์เพื่อเรียนหนังสือและบวชเรียน จึงเป็นครั้งแรกที่ประชาชนทั่วไปทั้งชายและหญิงได้มีโอกาสเข้ารับการศึกษาตามแบบแผนฝรั่ง และผู้ที่จบการศึกษาจากโรงเรียนนั้นๆ สามารถสอบเข้ารับราชการซึ่งเป็นการใช้ความรู้ความสามารถส่วนตัวของแต่ละบุคคล ไม่ใช่การสืบทอดตำแหน่งงานทางสายตระกูลอีกต่อไป ดังนั้น การปฎิรูปการศึกษา จึงเป็นหนึ่งขบวนการหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสังคมไทยที่เคยเป็นมาแต่ในอดีตให้เป็นสังคมไทยอย่างที่เรารู้จักกันอย่างในปัจจุบัน และยังเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปประเทศไทยให้ทันสมัยตามแบบตะวันตก (Modernization) ในสมัยรัชกาลที่ 5 ภายในนิทรรศการนอกจากจะจัดแสดงเนื้อหาการดำเนินงานของการปฏิรูปการศึกษาแล้ว ยังจัดแสดงหนังสือแบบเรียนเก่าที่หายากกว่า 20 เล่มอีกด้วย
พิเศษสำหรับผู้ชมงานสามารถขอรับหนังสือที่ระลึก "สมเด็จพระปิยมหาราชกับการปฏิรูปการศึกษา" ได้ฟรี! ในบริเวณนิทรรศการ (1 ท่าน/เล่ม/วัน) ซึ่งตีพิมพ์จำนวนจำกัดเพียง 5,100 เล่ม ซึ่งเลข 5 หมายถึง รัชกาลที่ 5 และ 100 หมายถึง 100 ปีวันสวรรคต

• เมื่อยนักพักเท้า  บริการนวดเท้าแผนโบราณ สำหรับผู้เข้าชมงานที่ต้องการพัก เหนื่อยหลังจากการเลือกซื้อหนังสือ

• เวทีกลาง ฮอลล์เอ  พบกับกิจกรรมเสวนา เปิดตัวหนังสือใหม่ พบปะพูดคุยกับ นักเขียนจากหลากหลายสำนักพิมพ์ เริ่มกิจกรรมตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น. ทุกวัน

>>>บริเวณเมนฟอร์เย่

• Creative Book Industry: DIY My Book หนังสือใครๆ ก็ทำได้จะจัดแสดงและจำลองบรรยากาศขั้นตอนการผลิตหนังสืออย่างครบวงจร เข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้จริงได้ ซึ่งประกอบด้วย 2 โซนคือ

1. โซนสำนักพิมพ์ ประกอบด้วย
o นักเขียนและบรรณาธิการมือชีพ จากสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย อาทิ
คุณชมัยภร แสงกระจ่าง คุณเพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ คุณขจรฤทธิ์ รักษา คุณเจน สงสมพันธุ์ คุณกนกวลี พจนปกรณ์ คุณจิตติ หนูสุข คุณพินิจ นิลรัตน์ และคุณนรีภพ สวัสดิรักษ์ ที่จะผลัดเปลี่ยนมาเป็นวิทยากรให้คำปรึกษาเรื่องการเขียนต้นฉบับ และวิธีการทำหนังสือ 1 เล่มคุณควรต้องรู้อะไรบ้าง

o ฝ่ายศิลป์และคอมพิวเตอร์กราฟฟิก ประกอบด้วยคณาจารย์และนักศึกษาจากคณะ
ศิลปวิจิตร สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ให้คำปรึกษาเรื่องการออกแบบเลย์เอาท์หนังสือ การทำภาพประกอบด้วยเทคนิคภาพวาดและภาพถ่าย และให้บริการจัดทำอาร์ตเวิรค์หนังสือจากแบบเลย์เอาท์ที่ได้จัดเตรียมรูปแบบ (Template) ไว้สำหรับท่านที่มีต้นฉบับไม่เกิน 15 หน้าเอ 4 ตัวอักษรพิมพ์ไม่เกิน 16 พอยท์ (16 Pt.) โดยสามารถขอรับบริการ 1 ท่านต่อ 1 ชื่อเรื่องต่อ 1 วันฟรี และท่านสามารถนำไฟล์อาร์ตเวิรค์ดังกล่าวไปตีพิมพ์เป็นหนังสือในโซนงานพิมพ์ได้ด้วย

2. โซนงานพิมพ์
จะให้บริการพิมพ์หนังสือด้วยเครื่องพิมพ์ขาวดำและสี่สีระบบ Digital จากบริษัท โอเซ่ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับท่านที่ต้องการมีหนังสือเป็นของตัวเอง พิเศษ! เฉพาะในงานมหกรรมหนังสือฯ นี้เท่านั้น เพียงท่านเตรียมไฟล์อาร์ตเวิร์ตปกสี่สี (เผื่อขนาดสันปกแล้ว) และเนื้อในขาวดำความยาวไม่เกิน 200 หน้าขนาด 14x20 ซม. พร้อมพิมพ์ ไฟล์อาร์ตเวิร์คต้องเป็นนามสกุล .PDF เท่านั้น ซึ่งท่านจะได้รับหนังสือที่เป็นผลงานเขียนของท่านกลับบ้านฟรี 1 เล่ม (ผู้จัดงานขอสงวนสิทธิ์จัดพิมพ์ให้กับผู้ที่จัดเตรียมไฟล์งานตามที่ระบุไว้เท่านั้น และให้บริการ 1 ท่านต่อ 1 ชื่อเรื่องต่อ 1 วัน)

• All for Book: Book for All  เชิญชวนผู้ชมงานร่วมทำบุญบริจาคเงินเพื่อซื้อหนังสือให้เด็กด้อยโอกาส ร่วมทำบุญตั้งแต่ 30 บาทขึ้นไป จะได้รับเข็มกลัด "อ่านไทย คิดไท" เป็นที่ระลึก หรือท่านใดที่ชอบงานประดิษฐ์สามารถลงมือทำเข็มกลัด "อ่านไทย คิดไท" ได้ด้วยตัวเอง หรือร่วมทำบุญ 200 บาท รับเสื้อ t-shirt ที่ระลึกของงาน (มีจำนวนจำกัด)

• บูธรับบริจาคหนังสือจากสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กระทรวงศึกษาธิการ

• สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.)
• ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

• บูธ Green Read By SCG Paper

ขอให้มีความสุขกับการเลือกซื้อเลือกหาหนังสือนะครับ อย่าลืมเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนนะครับ (ถ้าเป็นไปได้) แล้วพบกันในงานครับ *-*

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :  http://www.thailandbookfair.com/

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook