ช็อค!วัยรุ่นไทยตั้งครรภ์ 2.5 แสนคน/ปี

ช็อค!วัยรุ่นไทยตั้งครรภ์ 2.5 แสนคน/ปี

ช็อค!วัยรุ่นไทยตั้งครรภ์ 2.5 แสนคน/ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สสส.จับมือ ศธ.-แพธ เปิดตัว "UP TO ME" พัฒนาทักษะชีวิตมุ่งรณรงค์ป้องกันท้องไม่พร้อม

สสส.จับมือกระทรวงศึกษาธิการ และองค์การแพธ เปิดตัวโครงการ "UP TO ME" สร้างความตระหนักให้เยาวชนป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น จัดทีมรณรงค์ 250 คน เข้าไปจัดกิจกรรมใน 242 โรงเรียน พื้นที่ 22 จังหวัดนำร่องหวังแก้ปัญหาระยะยาว

เมื่อวันที่ 19 มกราคม กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และองค์การแพธ แถลงข่าวเปิดตัวโครงการรณรงค์สร้างความตระหนักเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น โดย นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมี วัยรุ่นไทย อายุระหว่าง 15-19 ปี จำนวน 5 ล้านคน มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ถึง 1.25 ล้านคน มีอัตราการตั้งครรภ์อยู่ที่ 2.5 แสนคน/ปี ซึ่ง 50% ของเยาวชนที่ตั้งครรภ์เลือกที่จะทำแท้ง และมีอัตราการคลอดบุตร เฉลี่ย 1.2 แสนราย/ปี หรือเฉลี่ยวันละ 336 คน นอกจากนี้ประมาณ 1 ใน 4 ของวัยรุ่นที่ทำแท้ง เป็นการทำแท้งซ้ำ และมีวัยรุ่นเพียง 1 ใน 3 ที่มีการคุมกำเนิดทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะเยาวชนส่วนใหญ่ กว่า 65% ขาดความรู้ความเข้าใจในการป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จากวิกฤติการณ์เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น กระทรวงศึกษาธิการ จึงร่วมมือกับ สสส. และองค์การแพธ (PATH) เพื่อผลักดันให้เยาวชนในสถานศึกษาในพื้นที่นำร่องจำนวน 242 แห่ง ใน 22 จังหวัด มีความรู้ความเข้าใจถึงวิธีลดความเสี่ยงของการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่พร้อม และสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเรียนรู้เกี่ยวกับการแสวงหาความช่วยเหลือหรือค้นหาทางเลือกที่เหมาะสมเมื่อต้องเผชิญภาวะที่นำไปสู่เพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน หรือการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ ซึ่งทุกกภาคส่วนต้องเร่งสนับสนุนและส่งเสริมให้พ่อแม่และครูศึกษาชุดความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมเรื่องเพศของวัยรุ่น ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ใหญ่เข้าใจ และเข้าถึงความต้องการของเยาวชน พร้อมเป็นที่ปรึกษาที่เหมาะสมให้กับวัยรุ่น ขณะเดียวกันสถานศึกษาและครูต้องตื่นตัวในการจัดการเรียนการสอนเพศศึกษาในโรงเรียน โดยปรับวิธีการและเนื้อหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่สอนให้เด็กเข้าใจเรื่องการป้องกันโรคเอดส์และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ไปพร้อมๆ กับการจัดกระบวนการเรียนการสอนที่พัฒนาทัศนคติเรื่องเพศต่อวัยรุ่นที่มุ่งเน้นความใส่ใจและรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น

ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาการตั้งท้องไม่พร้อมในวัยรุ่น ถือเป็นประเด็นหลักที่ สสส.ให้ความสำคัญ โดยคณะกรรมการกองทุน สสส. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้กำหนดให้มีการจัดทำมาตรการป้องกันและแก้ไขการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น ประกอบด้วย 2 มาตรการสำคัญ คือ มาตรการระยะสั้น ผ่านการสร้างทักษะชีวิตและการสื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักในสังคมเพื่อลดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่นลง 20% ภายในปี 2555 และมาตรการการขับเคลื่อนให้เกิดกลไกคณะกรรมการระดับชาติ โดยให้หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันทำงาน เพื่อปิดช่องว่างของการดำเนินงานที่ยังขาดอยู่ ซึ่งจากการทำงานที่ผ่านมาพบว่า ปัญหาต้นทุนชีวิตของเด็กและเยาวชน เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของการมีเพศสัมพันธ์และการท้องไม่พร้อม โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กในโรงเรียนที่มีเพศสัมพันธ์ จึงจำเป็นต้องสร้างต้นทุนชีวิตซึ่งเป็นปัจจัยสร้างเชิงบวกให้เด็กในด้านพลังตัวตน ครอบครัว ปัญญา เพื่อน และกิจกรรมชุมชน เพื่อเปลี่ยนแปลงมุมมองการมองของเด็กใหม่

ทพ.กฤษดา กล่าวว่า โครงการ "UP TO ME" จึงเป็นตัวอย่างกิจกรรมการพัฒนาทักษะชีวิตให้เกิดความเข้าใจในเรื่องเพศของเยาวชน และพัฒนาแนวทางป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ซึ่งจะนำร่องในเขตพื้นที่การศึกษา 242 แห่ง ใน 22 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย นครสวรรค์ นครปฐม นนทบุรี กาญจนบุรี นครนายก ปทุมธานี กรุงเทพฯสระแก้ว จันทบุรี อุบลราชธานี ศรีสะเกษ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และปัตตานี โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม - 20 กุมภาพันธ์นี้ และคาดหวังให้เกิดการขยายผลต่อไปยังครู และผู้บริหารในสถานศึกษาอื่นๆ ในการสนับสนุนให้มีการสอนเพศศึกษาแก่เยาวชนในทุกระดับชั้นให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพซึ่งจะเป็นเกราะป้องกันที่สำคัญของเยาวชนในระยะยาว

น.ส.ภาวนา เหวียนระวี ผู้จัดการโครงการรณรงค์สร้างความตระหนักเพื่อป้องกันการตั้งครภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น และผู้แทนองค์การแพธ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับรูปแบบกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตในเรื่องเพศ จะใช้เวลา 3 ชั่วโมงซึ่งจะประกอบด้วย การฉายภาพยนตร์ สลับกับกิจกรรมเสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ และตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้ง การค้นหาทางเลือกที่รอบด้านในการป้องกัน และการแก้ไขสถานการณ์ท้องไม่พร้อม ผ่านการแสดงความเห็นเกี่ยวกับตัวละครที่สะท้อนวิถีของวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกิจกรรมเสริมความรู้ เช่น การทำแบบทดสอบ Sex Quiz การจำลองเป็นคนท้อง ฯลฯ

น.ส.ภาวนา กล่าวว่า ทีมรณรงค์สัญจรซึ่งผ่านการอบรมจากโครงการฯ จำนวน 250 คน ประกอบด้วย เยาวชนที่เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ จากศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน จากกลุ่มเยาวชนในแต่ละพื้นที่ รวมทั้ง เครือข่ายผู้ใหญ่ใจดีจากสถาบันการศึกษา สาธารณสุข และองค์กรพัฒนาเอกชน จะได้ทำงานร่วมกันในการจัดกิจกรรมรณรงค์ในสถานศึกษาใน 22 จังหวัด รวมทั้งเชิญครูอาจารย์จากโรงเรียนใกล้เคียงมาร่วมสังเกตการณ์ โดยโครงการจะมอบ "คู่มือการจัดกิจกรรมพร้อมแผ่นดีวีดีหนังสั้น ทางเลือก" ให้สถานศึกษาละ ๑ ชุดเพื่อนำไปขยายผลต่อไปรวมทั้ง ขอความร่วมมือจากเยาวชนที่ร่วมกิจกรรมให้ช่วยกันบอกต่อเชิญชวนเพื่อนๆ ชมหนังสั้นทางเว็บไซต์ Lovecarestatiom.com และร่วมกิจกรรมในเว็บไซต์ดังกล่าว

น.ส.ภาวนา กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการเคลื่อนที่ เพื่อเป็นองค์ประกอบคู่ไปกับคาราวานเยาวชน และการนำสื่อการเรียนรู้เรื่องเพศเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซด์ ovecarestation.com ซึ่งเป็นเว็บให้คำปรึกษาในเรื่องสุขภาวะทางเพศของเยาวชน และเว็บไซด์ talk about sex ซึ่งสสส.ได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ในการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังสำนักบริหารงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จำนวน 900 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการขยายผลไปยังสถานศึกษา และผู้ปกครองได้เข้ามาเรียนรู้ และนำไปสร้างความรู้ให้กับเยาวชนต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook