สนช. เดินหน้าเปิดหลักสูตรการจัดการนวัตกรรม

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งในกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อทำกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดธุรกิจนวัตกรรมขึ้นในประเทศ เป็นธุรกิจใหม่ที่ไม่เคยมีคนคิดคนทำมาก่อน โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผลิตผลิตภัณฑ์

การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถด้านนวัตกรรมเป็นสิ่งจำเป็นในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งการจัดการนวัตกรรมเป็นเรื่องที่ต้องใช้ทักษะความรู้รอบด้าน ไม่เพียงแต่เรื่องของการสร้างสรรค์หรือการคิดค้นเทคโนโลยี แต่เกี่ยวเนื่องไปถึงการบริหารจัดการทางธุรกิจ การเงิน และการตลาด ในรูปแบบใหม่ๆ

คุณปัทมาวดี พัวพรหมยอด Section Manager สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งในกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รับการจัดสรรงบประมาณทุกปี เพื่อทำกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดธุรกิจนวัตกรรมขึ้นภายในประเทศ เป็นธุรกิจใหม่ที่ไม่เคยมีคนคิดคนทำมาก่อน โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพมากขึ้น นี่คือหน้าที่หลักๆที่ทางสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติรับผิดชอบ

วิธีการที่จะทำให้ภารกิจหลักสัมฤทธิ์ผลคือ การออกไปเผยแพร่ให้ความรู้ให้คนทั่วไปรู้จักว่า "นวัตกรรมคืออะไร" พอเขารู้จักแล้วเขาคิดที่จะทำธุรกิจนวัตกรรมอะไรใหม่ๆเข้ามาแข่งขันในตลาดบ้าง แต่แทนที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจจะต้องออกเงินลงทุนคนเดียว ทาง สนช. จะให้เงินทุนสนับสนุนไปเลย 75 เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุนทั้งหมด โดยไม่ต้องนำมาคืนภายหลัง แต่ก่อนที่จะได้เงินลงทุนไปนั้นผู้ประกอบการต้องมีเขียนแผนธุรกิจมาเสนอกับทาง สนช. โดยทาง สนช. จะพิจารณาดูว่าเป็นธุรกิจอะไร เป็นธุรกิจใหม่หรือไม่ ใช้เทคโนโลยีอะไรบ้าง ดูตลาดแล้วมีแนวโน้มยังไงบ้าง กลุ่มเป้าหมายคือใคร ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ ถ้าทาง สนช. พิจารณาแล้วเห็นว่าธุรกิจนั้นเป็นธุรกิจนวัตกรรมใหม่และมีโอกาสประสบความสำเร็จในอนาคต ก็จะให้เงินทุนสนับสนุน 75 เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุนทั้งหมด

จากภารกิจหลักที่ต้องให้ความรู้ในเรื่องของนวัตกรรมและการทำกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจนวัตกรรมใหม่ๆของทาง สนช. และเพื่อให้การทำงานประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทาง สนช. คิดว่าควรร่างหลักสูตรการเรียนการสอนในเรื่องของนวัตกรรมให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ และนำหลักสูตรที่ได้นั้นไปเรียนต่อในรั้วมหาวิทยาลัยน่าจะเป็นการตอบโจทย์ที่ดีที่สุด นี่จึงเป็นที่มาของ "หลักสูตรการจัดการนวัตกรรม" ในระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยต่างๆ อาทิ หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการนวัตกรรม มหาวิทยาลัยรามคำแหง (หลักสูตรแรกที่เปิดสอน) , หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาธุรกิจเทคโนโลยีและการจัดการนวัตกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ที่เน้นการจัดการด้านเทคโนโลยีเป็นหลัก)

และเผื่อขยายผลการจัดการศึกษาให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการในทุกพื้นที่ ทุกอาชีพ ที่สนใจการทำธุรกิจนวัตกรรมให้สามารถเข้าถึงความรู้และการสนับสนุนของ สนช. ทาง สนช. จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการเปิดหลักสูตรวุฒิบัตรการศึกษาทางไกล "การจัดการนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการ" ใช้ระยะเวลาในการเรียน 4 เดือน ค่าใช้จ่าย 2,500 บาท ซึ่งผู้เรียนสามารถเขียนแผนธุรกิจและขอเงินทุนสนับสนุนจากทาง สนช. ได้เช่นเดียวกัน

สำหรับหลักสูตรที่ร่างขึ้นมานั้น สนช. จะเข้าไปดูแลในส่วนของเนื้อหา ดูว่าหลักสูตรที่สร้างขึ้นมาใหม่เพื่อให้รู้จักคำว่านวัตกรรมคืออะไร ทำได้อย่างไร จนกระทั่งลงมือทำธุรกิจได้จริง จะต้องเรียนเรื่องอะไรบ้าง สิ่งที่ต้องเพิ่มเติมเข้าไปก็คือเรื่องของการจัดการนวัตกรรม พร้อมๆกับให้ความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยในการสอดแทรกมุมมองใหม่ๆทางด้านนวัตกรรมในวิชาอื่นๆด้วย นอกจากนี้ในบางรายวิชาจะมีการเชิญผู้ประกอบการตัวจริงที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจของตนมาบรรยายให้นักศึกษาฟัง เพื่อให้ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน

อนาคตอันใกล้ทาง สนช. ยังคงเดินหน้าจัดทำหลักสูตรการศึกษาเพิ่มเติมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการสร้างธุรกิจใหม่ โดยในปีการศึกษา 2554 "หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการนวัตกรรม มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ" จะเปิดรับสมัครนักศึกษารุ่นที่ 1 ในช่วงต้นปี ติดต่อได้ที่ โทร. 02-719-1088 หรือ 02-300-4543-62 ต่อ 1360-1 หรือเข้าไปที่ www.grad.au.edu และล่าสุด "หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย" จะเปิดรับสมัครนักศึกษารุ่นที่ 1 ในเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2554 นี้ ติดต่อได้ที่ ผศ.ดร.กริช แรงสูงเนิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย โทร. 0-4241-5600 หรือ 08-5334-4556 นอกจากนี้ทาง สนช. ยังอยู่ในระหว่างร่างหลักสูตรร่วมกับ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี อีกด้วย

ที่มา "การศึกษาวันนี้"
ผู้เขียน : ปิยะนุช zorau123@hotmail.com