"จ๋า" พิมพรรณ อยู่พูล เผยไต๋คว้าทุน ก.พ. เรียนต่อโท

"จ๋า" พิมพรรณ อยู่พูล เผยไต๋คว้าทุน ก.พ. เรียนต่อโท

"จ๋า" พิมพรรณ อยู่พูล เผยไต๋คว้าทุน ก.พ. เรียนต่อโท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรียนต่อโท วิทยาการคอมพิวเตอร์ เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วยังมีโอกาสเข้ารับราชการทันที

สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครทุน ก.พ. ในอนาคต ฉบับนี้ได้ตัว "คุณจ๋า" พิมพรรณ อยู่พูล อดีตนักเรียนทุน ก.พ. มาเปิดเผยแบบหมดเปลือกเกี่ยวกับเคล็ดลับในการพิชิตทุน ใครอยากรู้รายละเอียดลึกๆล้อมวงเข้ามาอ่านกันได้เลย
"คุณจ๋า" พิมพรรณ อยู่พูล ปัจจุบัน รับราชการอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ ตำแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ จบการศึกษาปริญญาโท สาขา Computer Science จาก University Of San Francisco สหรัฐอเมริกา
จ๋าได้รับทุน ก.พ. ในระดับปริญญาโท เรียนต่อด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในส่วนของการเลือกมหาวิทยาลัยนั้น ไม่ได้มีการบังคับไว้ ขอแค่เป็นมหาวิทยาลัยที่ทาง ก.พ. รับรอง เท่านั้น ซึ่งมหาวิทยาลัยที่จะเลือกเรียนต่อ จะเป็นมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาหรือว่าประเทศทางยุโรปก็ได้

ตอนนั้นคุณแม่เป็นคนจุดประกายให้จ๋า คุณแม่จะคอยบอกว่ามีทุน ก.พ. เปิดรับสมัครนะ ตัวจ๋าเองก็มีความตั้งใจอยากเรียนต่ออยู่แล้ว ที่สำคัญไม่อยากรบกวนเงินคุณพ่อคุณแม่ด้วย ก็เลยเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. (http://www.ocsc.go.th/) เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทุน ก.พ.

สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงานก.พ.) เป็นหน่วยงานเพียงแห่งเดียวที่มีหน้าที่รับกำกับดูแลจัดการการศึกษาและให้ ความช่วยเหลือนักเรียน ทั้งนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวง นักเรียนทุนรัฐบาล ข้าราชการลาศึกษา ฝึกอบรม ดูงาน ปฏิบัติการวิจัย และนักเรียนทุนอื่นๆโดยผู้สมัครทุนควรจะมีพื้นฐานความรู้ที่ตรงกับทุนที่ ต้องการไปศึกษาต่อ เกรดเฉลี่ยตอนปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า 2.75 หรือ 3.00 สำหรับไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท จุดประสงค์หลักๆของทุน ก.พ. ก็เพื่อพัฒนาบุคลากรของประเทศให้มีความรู้ความสามารถกลับมาพัฒนาบ้านเมืองใน อนาคต

ข้อดีของทุน ก.พ. คือ เป็นทุนเต็มจำนวนที่จ่ายค่าใช้จ่ายให้เราทุกอย่าง ทั้งเรื่องค่าเทอม ค่าที่พัก และค่ากินอยู่ ที่สำคัญไม่ว่าค่าเทอมจะแพงแค่ไหน ก.พ. ก็พร้อมจะจ่ายให้ และเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วยังมีโอกาสเข้ารับราชการทันที ซึ่งนอกจากจะได้งานที่ดีและมั่นคงหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว ยังเป็นความภาคภูมิใจหนึ่งของคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย

ที่จ๋าเลือกเรียนต่อโททางด้านวิทยาการคอมพิวเจอร์ เพราะเรียนปริญญาตรีทางด้านนี้มาก่อน และชอบเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ในส่วนของการเลือกสถานที่เรียนนั้น จ๋าจะหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต โดยดูตาม Ranking ของมหาวิทยาลัย และสาขาวิชาที่จะไปศึกษาต่อ และจากนิทรรศการศึกษาต่อต่างประเทศที่จัดขึ้นทุกปี

ตามกฎของการสมัครทุน ก.พ. อนุญาตให้ผู้สมัครสามารถเลือกทุนที่ต้องการสมัครจาก 3 หน่วยงานด้วยกัน เมื่อประกาศว่ามีการเปิดรับสมัครทุนใดบ้าง ก็จะทำรายการออกมาเรียงลำดับทุนที่ต้องการจากมากไปน้อย ต้องอ่านขั้นตอนทั้งหมดของการสมัครว่ามีอะไรบ้าง เพื่อเราจะได้เตรียมเอกสารที่ใช้ในการสมัครได้ทันเวลา และจะได้วางแผนเตรียมตัวอ่านหนังสือได้อย่างถูกต้องต่อไป

สำหรับขั้นตอนของการสอบชิงทุน ก.พ.ในส่วนของข้อเขียนนั้นไม่ยากมากจะเหมือนกับข้อสอบ ก.พ.ทั่วไป สามารถหาซื้อหนังสือข้อสอบ ก.พ.จากร้านหนังสือทั่วไปมาอ่านได้ แต่ส่วนที่สำคัญที่ควรเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆคือเรื่องสอบภาษาอังกฤษเพื่อไป ศึกษาต่อ (TOEFL, IELTS) ถึงแม้ทุนก.พ.จะยังไม่บังคับผลคะแนน TOEFL หรือ IELTS ในตอนแรก แต่การสอบภาษาอังกฤษให้ได้คะแนนดีนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะไม่ว่าเราจะมีพรสวรรค์ทางสาขาวิชาชีพที่จะไปเรียนสักแค่ไหน หากไม่ผ่านคะแนนภาษาอังกฤษตามที่กำหนดไว้ ก็ไม่มีมหาวิทยาลัยไหนรับเราเข้าศึกษาต่อได้ สำหรับตัวจ๋าเองรู้ตัวเลยว่าอ่อนด้าน speaking และ writing ก็เลยรีบหาที่เรียน เพราะว่าทุน ก.พ.ให้เวลาเราเตรียมตัวก่อนไปเรียนได้ไม่เกิน 1 ปี ช่วงเตรียมตัวนี้ก็เลยไปลงเรียน writing กับ "ครูนุ้ย" English Breakfast และเรียน speaking กับ "พี่เต้" English Breakfast


นอกจากนี้การสมัครเข้ารับการศึกษาต่อระดับปริญญาโทขึ้นไปในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศในแถบยุโรป มีความจำเป็นที่จะต้องเขียน statement of purpose ประกอบการสมัคร เพื่อแสดงทัศนคติของเรา ความตั้งใจที่จะศึกษาต่อ ณ สถาบันการศึกษา และสาขาวิชานั้นๆ การเขียนที่ดีควรจะแสดงให้เขาเห็นว่าเราได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันของ เขามาเป็นอย่างดี ไม่ใช่เป็น statement of purpose ที่เหมือนกับเอาไปใช้กับที่อื่นๆ ก็ได้ และในส่วนของภาษาเขียนนั้นควรจะร่างไว้คร่าวๆก่อน ให้เพื่อนหรือคนที่เก่งภาษาอังกฤษช่วยปรับแต่งให้มีความสละสลวยมากยิ่งขึ้น


ในส่วนของการสอบข้อเขียนนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ โดยส่วนแรกเป็นวิชาภาษาอังกฤษVocabulary and Expressions, Error Recognition, Reading Comprehension และส่วนที่สองเป็นวิชาความสามารถทั่วไปเชิงวิชาการ ทดสอบความสามารถในการวิเคราะห์และการใช้เหตุผล โดยการให้แปลความ ตีความ สรุปความ อ่านจับประเด็น จากข้อความหรือบทความแก้ปัญหาข้อมูลเชิงปริมาณ และวิเคราะห์หาแนวโน้มหรือการเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเป็นไปได้จากข้อมูล เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคม ตรงนี้แนะนำให้หาข้อสอบ CU-TEP หรือ TU-GET หนังสือข้อสอบข้าราชการ ก.พ. มาลองทำดู

เมื่อผ่านการสอบข้อเขียนแล้ว ผู้สมัครจะถูกคัดเลือกไว้ประมาณ 5 คน ต่อ 1 ทุน โดยผู้ที่ผ่านการสอบข้อเขียนทั้ง 5 คน นี้ ต้องเข้าสู่กระบวนการประเมินความเหมาะสมหรือสอบสัมภาษณ์ต่อไป โดยคะแนนสอบสัมภาษณ์ที่ได้นั้นต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 โดยผู้ที่มีคะแนนประเมินความเหมาะสมของบุคคลสูงสุดจะมีสิทธิได้รับทุนก่อน


จากประสบการณ์ที่จ๋าเจอในส่วนของการสอบสัมภาษณ์นั้น ตอนนั้นจ๋าเตรียมอ่านเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไปด้วย เพราะถ้าเป็นทุนของกระทรวงวิทยาศาสตร์จะมีให้เขียนบทความ 2-3 บทความ เน้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เขาจะถามเราว่าสามารถนำเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้กับสาขาวิชาที่เรากำลัง จะไปศึกษาต่อได้อย่างไร นอกจากนี้ควรหาความรู้เกี่ยวกับข้อมูลของต้นสังกัดด้วยว่าเขาทำอะไร อย่างไรบ้าง ในการตอบคำถามสัมภาษณ์บางทีอาจจะได้รับคำถามที่คาดไม่ถึง หรือเป็นคำถามจิตวิทยาที่จะทำให้ได้คะแนนในส่วนนี้ดีขึ้นได้ ทำใจให้สบาย อย่าเครียด ตอบคำถามให้ถูกกาลเทศะ ขอให้จริงใจ และแสดงถึงความตั้งใจจริง มุ่งมั่น ว่าจุดประสงค์ที่เราไปเรียนนั้น เพื่อนำความรู้กลับมาพัฒนาบ้านเมืองในอนาคต ในส่วนนี้อาจมีการพูดเป็นภาษาอังกฤษนิดหน่อย เป็นการแนะนำตัวเองว่าชื่ออะไร เรียนจบจากที่ไหน แล้วทำไมถึงอยากจะไปเรียนต่อ ตรงส่วนนี้สามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้

สำหรับงานวิจัยที่จ๋าทำในตอนนั้นคือ เรื่อง wireless sensor network (เครือข่ายเซ็นเซอร์ไร้สาย) ซึ่งงานที่จ๋าทำจะเขียนโปรแกรมเข้าไปในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็น wireless sensor ซึ่งอุปกรณ์นี้จะมีตัวจับการเคลื่อนไหว อุณหภูมิ และสามารถส่งข้อมูลกลับเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ โดยโปรเจ็คที่จ๋าทำจะนำตัวอุปกรณ์ wireless sensor นี้มาใช้แทนเมาส์ เหมือนกับเมาส์ไร้สาย แต่ดีกว่าตรงที่สามารถควบคุมการทำงานของหน้าจอ โดยที่เราขยับเมาส์ไปมาบนอากาศ และสามารถที่จะควบคุมการทำงานส่วนอื่นๆของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ โดยการขยับเมาส์เป็นรูปร่างต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ นอกจากนี้หัวใจสำคัญขององค์ความรู้นี้คือ การเขียนโปรแกรมแบบระบบเครือข่าย ซึ่งนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อยอดได้อย่างมหาศาล อย่างเช่น กรณีที่เราต้องการทราบความเคลื่อนไหวหรือต้องคอยมอนิเตอร์พื้นที่ห่างไกลที่ คนไม่สามารถเข้าถึงได้ อย่างเช่น จุดที่เกิดแผ่นดินไหวซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ยากจะเข้าถึงต้องมีอุปกรณ์ เข้าไปคอยจับสัญญาณและส่งต่อมายังศูนย์คอมพิวเตอร์ เพื่อทำการคำนวณผล เราสามารถนำตัว wireless sensor นี้ เข้าไปตั้งตามจุดต่างๆ เพื่อส่งต่อข้อมูลมาประมวลผลให้ทันท่วงที

ถ้าพูดถึงประสบการณ์การเรียนที่สหรัฐอเมริกา ค่อนข้างจะแตกต่างมากจากที่เคยเรียนสมัยปริญญาตรี ทั้งในเรื่องของภาษาที่เราไม่คุ้นเคย การเรียนการสอนที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง ปรกติจะมีเพื่อนให้ถาม แต่ที่จ๋าไปเรียนไม่มีคนไทยเลย เราต้องอ่านหนังสือเยอะมากขึ้น ใช้เวลาอ่านนานขึ้น เพราะเป็น Text book ทั้งหมด งาน assignment ทั้งหลาย ก็จะเยอะมาก เป็นอะไรที่เหนื่อยกว่าตอนเรียนปริญญาตรีหลายเท่านัก ช่วงเปิดเทอมไม่มีเวลาเที่ยวเล่นที่ไหนเลย แต่เมื่อถึงเวลาปิดเทอมนี่เป็นสวรรค์เลย การเที่ยวที่นี่ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิต เพราะการเดินทางที่อเมริกาอยากจะไปไหนถือว่าค่อนข้างสะดวกสบายและปลอดภัยมาก อยากจะไปไหนก็หาข้อมูลและจองตั๋วจากอินเทอร์เน็ตได้ง่ายมาก และที่ชอบที่สุดคงจะเป็น Road Trip (ขับรถเที่ยว) ไปกับเพื่อนๆ โดยเราจะวางแผนกันขับรถไปตามเมืองต่างๆ พักแต่ละแห่งสัก 2-3 คืน เป็นอะไรที่ชอบมาก โชคดีด้วยที่เกิดทันตอนมี GPS ขาดไม่ได้เลยทีเดียว พาไปได้ทุกทีที่ต้องการ อาจหลงบ้าง แต่ก็สนุกไปอีกแบบ อยากแวะที่ไหนก็แวะ รู้สึกเป็นอะไรที่อิสระมาก ถือว่าชดเชยได้กับการเรียนอันแสนโหดที่ผ่านมา

สุดท้ายนี้อยากฝากเอาไว้ว่า สำหรับคนที่สนใจจะสมัครทุน ก.พ. ในอนาคต อย่าอยู่นิ่ง เตรียมตัวตั้งแต่วันนี้เลย กว่าจ๋าจะได้ทุนนี้ใช้เวลากว่า 3 ปี แต่เพราะเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน ความตั้งใจนั้นจึงทำให้จ๋าผ่านมาถึงวันนี้ได้ ท้อได้แต่อย่าถอย ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของเราแน่นอนถ้าเราตั้งใจจริง และอย่างที่ทราบกันทุน ก.พ. เป็นทุนรัฐบาลไทยที่มีข้อผูกมัดว่าเราจะต้องกลับมาชดใช้ทุนเป็นจำนวนเท่าของ ระยะเวลาที่ไปเรียน หรือไม่ก็ชดใช้เป็นเงินเป็นจำนวนเท่าตอนที่เราได้ทุนไปเรียนต่อ ตอนที่ได้ทุนอาจจะรู้สึกดีใจและภูมิใจ แต่เมื่อถึงเวลาที่กลับมารับราชการก็ขอให้รู้สึกถึงความภาคภูมิใจนั้นด้วย ว่าเราได้มาเป็นข้าราชการ ผู้ซึ่งรับใช้ชาติ รับใช้แผ่นดิน ตอนนี้น้อยคนนักที่จะได้รับโอกาสบรรจุเป็นข้าราชการ ถือว่าเป็นข้อดีอีกข้อหนึ่งนอกจากการรับทุน ก.พ. ค่ะ

ที่มา "การศึกษาวันนี้"
ผู้เขียน : ปิยะนุช zorau123@hotmail.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook