บ๊อบ มาร์ลีย์: 3 ทศวรรษตำนานเร็กเก้

บ๊อบ มาร์ลีย์: 3 ทศวรรษตำนานเร็กเก้

บ๊อบ มาร์ลีย์: 3 ทศวรรษตำนานเร็กเก้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้มรดกทางดนตรีของนักร้องนักดนตรีระดับตำนาน ‘บ๊อบ มาร์ลีย์' อาจจะถูกนำมาขับขานน้อยลงในกลุ่มเยาวชนจาเมการุ่นใหม่ที่ตอนนี้ต่างหันหน้าเข้าสู่โลกของ dancehall แนวเพลงใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยม... ทว่าภาพชายผิวดำกับทรงผมเดรดล็อคที่แฝงด้วยความอหังการ ผู้เดินหน้าเรียกร้องเสรีภาพและอิสรภาพเพื่อกลุ่มคนผิวสี หรือพลเมืองชั้นสองในสังคมผ่านบทเพลงและท่วงทำนองผู้นี้ ได้ถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์แม้เขาจะลาโลกไปแล้วถึง 30 ปี

ตราบจนทุกวันนี้ในยุคที่โลกขับเคลื่อนด้วยทุนนิยม ภาพถ่ายของราชาเพลงเร็กเก้ที่มีฉากหลังเป็นสีแดง เหลือง เขียว ซึ่งเป็นสีประจำเป็นลัทธิรัสตาฟารี ก็ยังคงปรากฏหราบนสินค้าต่างๆ ทั้งเสื้อยืด รองเท้า ไปจนถึงอุปกรณ์สำหรับเล่นสกี ในขณะที่เพื่อนๆของมาร์ลีย์กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า คงเป็นเรื่องน่าเศร้าถ้าสารที่มารลีย์ตั้งใจจะสื่อเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับกลุ่มคนที่ถูกกดขี่กลับสูญหายไป แต่กำลังรับใช้ความโลภเห็นแก่ได้ของบริษัทที่นำภาพของเขาไปใช้ในสินค้าของตน

Herbie Miller เพื่อนของมาร์ลีย์เผยว่า เขาไม่เคยนิยมในแนวคิดเรื่องการค้าขาย เพราะ "เงินไม่ใช่แรงจูงใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมาร์ลีย์"

ในขณะเดียวกันแฟนเพลงพันธุ์แท้ของเขาต่างเห็นว่าในวาระครบรอบ 3 ทศวรรษหลังจากที่มะเร็งได้คร่าชีวิตมาร์ลีย์ไปเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2524 นับเป็นหมุดหมายสำคัญจะร่วมกันเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ของนักดนตรีจากประเทศโลกที่สามคนแรกที่แจ้งเกิดบนเวทีดนตรีโลกอย่างสง่างาม แทนที่จะเศร้าโศกเสียใจ

แฟนเพลงจากออสเตรียวัย 24 ปี Bernadette Hellwanter ที่มาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ราชาเพลงเร็กเก้ Bob Marley Museum ในกรุงคิงสตัน ประเทศจาเมกา เล่าว่าดนตรีของมาร์ลีย์เต็มไปด้วยเรื่องราวของชีวิต เพราะฉะนั้นคงจะไม่เหมาะถ้าจะมามัวเศร้าสลดถึงนักดนตรีผู้ล่วงลับ ด้านสาวกฝั่งอเมริกาอย่าง Nickia Palmer ชาวจาเมกาในวัย 33 หวนระลึกการแสดงดนตรีครั้งแรกของตัวเองขณะเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายในรัฐเวอร์จิเนียว่า เขาเลือกเพลง No Woman No cry ของมาร์ลีย์มาร้อง


แม้จะยังติดตรึงอยู่ในความทรงจำของแฟนเพลง แต่กระนั้นความนิยมและความโด่งดังของตัวพ่อแห่งวงการเร็กเก้ก็ดูเหมือนจะค่อยๆจางหายลงไปตามกาลเวลา ล่าสุดมูลนิธิของบ๊อบ มาร์ลีย์ Marley Foundation ซึ่งบริหารจัดการมรดกของนักดนตรีผู้นี้ ก็ประกาศว่าไม่มีแผนที่จะจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีการจากไปของนักร้องผู้ใช้บทเพลงในการเคลื่อนไหวและสร้างแรงกระเพื่อมในสังคม

ดนตรีจากการสร้างสรรค์ของขบถแห่งโลกเสรีผู้กรุยทางพาให้ดนตรีเร็กเก้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ยังคงถูกเปิดตามสถานีวิทยุท้องถิ่นเพื่อเป็นเกียรติให้แก่เขาก็จริง แต่เด็กจาเมการุ่นใหม่ก็ไม่เข้าใจถึงนัยยะที่แฝงในบทเพลง ซึ่งวัยรุ่นจาเมกาจะชื่นชอบเพลงสร้างความรู้สึกจรรโลงใจของมาร์ลีย์เช่น Three Little Birds และ One Love มากกว่าเพลงที่มีความหมายหนักๆอย่าง Exodus หรือ The Heathen

ไม่ว่าจะได้รับความนิยมน้อยลงอย่างไร แต่เชื่อว่าผลงานของราชาเพลงเร็กเก้ ผู้เติบโตในย่านเสื่อมโทรมของเมืองเทร็นช์ทาวน์ จะก้องกังวานพร้อมกันทั่วโลก ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ อย่างแน่นอนเพื่อระลึกถึงบทเพลงและจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของ บ๊อบ มาร์ลีย์

ที่มา สำนักข่าว AFP
แปลและเรียบเรียงโดย วิภาวี วิบูลย์ศิริชัย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook