อ่านสร้างแรงบันดาลใจกับ "หมอโอ๊ค"

อ่านสร้างแรงบันดาลใจกับ "หมอโอ๊ค"

อ่านสร้างแรงบันดาลใจกับ "หมอโอ๊ค"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้เราพามาพบกับคุณหมอนักอ่าน นายแพทย์สมิทธิ์ อารยะสกุล หรือ หมอโอ๊ค ขวัญใจสาวๆ นั่นเอง นอกเหนือจากอาชีพแพทย์ต้องอัพเดทความรู้ตัวเองตลอดเวลา ทั้งวารสารการแพทย์และตำราเล่มหนาแล้ว ในฐานะที่เป็นศิลปิน นักร้อง เลยต้องแสวงหาแรงบันดาลใจด้วย คำตอบนั้นก็มาจากการอ่านหนังสือนั่นเอง

"หนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผม ชื่อว่า Thirty Things to Do When You Turn Thirty เล่มนี้ไม่ต้องอายุสามสิบก็อ่านได้ เป็นการตั้งคำถามเกี่ยวกับกับตัวเอง ผมว่าถ้าคุณอยู่ในวัยทำงาน ยี่สิบปลายๆ สามสิบต้นๆ เป็นวัยที่ เราต้องทำงานหนักและอยู่ ในช่วงเปลี่ยนแปลงเยอะ บางคนก็จะเกิดคำถามถึงเป้าหมายในการดำเนินชีวิต ถ้าคุณมีคำถามว่า เราเกิดมาทำไมหรือเราทำงานเพื่ออะไร ผมแนะนำเล่มนี้นะครับลองอ่านดูแล้วเราจะรู้สึกมีมุมมองกับชีวิตมากขึ้น"

"ผมชอบบทที่คนเขียนเป็นนักฟุตบอลชื่ออดัม ชื่อเรื่องว่า Live for today ใช้ชีวิตเพื่อวันนี้นะครับ มันโดนใจผมมากเพราะผมรู้สึกว่าทุกวันนี้ผมมัวแต่มุ่งไปเพื่ออนาคต แต่ที่แย่กว่านั้นคือมัวแต่ไปคิดถึงความผิดพลาดในอดีต เชื่อว่าหลายคนก็เป็นเหมือนกัน ลองมามองในมุมมองใหม่ จัดการกับวันนี้ของเราให้ดีที่สุด"

ยังไม่หมดเท่านี้ คุณหมอโอ๊ค ยังมีอีกหลายเล่มมาแนะนำไม่ว่าจะเป็น 101 Things To Do Before You Die หนึ่งร้อยหนึ่งอย่างที่ควรทำก่อนตาย ที่จะช่วยทำให้เรามีเป้าหมายในชีวิต หรือคนที่ชอบท่องเที่ยวแบบท้าทาย หมอโอ๊คแนะนำ 501 อย่างที่ต้องทำในการเดินทาง ที่จะแนะนำทุกเมืองบนโลกนี้ แล้วก็แนะนำว่าเมื่อได้ไปสัมผัสแล้วไม่ควรพลาดกิจกรรมสำคัญของสถานที่นั้นๆ

"การอ่านผมว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากในความเป็นมนุษย์เพราะแน่นอนว่ามีแต่มนุษย์เท่านั้นที่มีภาษาในโลกนี้ และการเรียนรู้อย่างหนึ่งที่เป็นการเรียนรู้จากตัวเองอย่างแท้จริง โดยที่ไม่มีอคติก็คือการอ่านจากตัวเราเองผมพูดได้เลยว่าหนังสือมีส่วนช่วยในการผลักดันและสร้างแรงบันดาลใจให้ผมได้เยอะเลย อีกอย่างหนึ่งคือหนังสือก็เหมือนเพื่อนเวลาเราเดินทางไกล ต้องไปประชุม หรืออะไรที่ต้องอยู่คนเดียว มันก็เป็นเพื่อนเราได้อย่างดี และรู้ใจเราด้วย เพราะว่าเราสามารถที่จะเลือกอ่านได้ หนังสือเป็นสิ่งที่เราเก็บรักษาได้ เป็นความทรงจำอย่างบางเรื่องเราอ่านตั้งแต่วัยเด็ก หรือวัยหนึ่งเรามีความรู้สึกกับมันอย่างหนึ่ง และเมื่อเราโตแล้วมาอ่านมันอีกครั้ง ความรู้สึกของเราก็เปลี่ยนไปได้เหมือนกัน"

ข้อมูล/ภาพประกอบจาก : สสส.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook