ต้อนรับเปิดเทอมกับ อาร์ตี้ ธนฉัตร

ต้อนรับเปิดเทอมกับ อาร์ตี้ ธนฉัตร

ต้อนรับเปิดเทอมกับ อาร์ตี้ ธนฉัตร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ว้าวววว...ได้เวลาของการเริ่มต้นทางการศึกษาครั้งใหม่แล้ว สำหรับน้องๆ ที่อยู่ในช่วงขึ้นมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ก็คงจะแอบตื่นเต้นเล็กๆ กับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ขณะที่หลายมหาวิทยาลัยก็เริ่มมีการนัดหมายน้องๆ มาร่วมประเพณีที่เราเรียกกันว่า "รับน้อง" ออกมาให้ได้เห็นกันแล้ว วันนี้ สนุก!แคมปัส ได้ป๊ะหน้านักแสดงหนุ่มอย่าง อาร์ตี้ ธนฉัตร ตุลยฉัตร ที่มาอัดรายการเก้าอี้โดนใจทีน ก็เลยชักชวนหนุ่มอาร์ตี้ มาเล่าประสบการณ์เปิดเทอมครั้งแรกในรั้วมหาวิทยาลัยให้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน...^^

Q : ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่...

A : ชั้นปีที่ 3 คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์และวีดีทัศน์ มหาวิทยาลัยรังสิตครับ

Q : ประสบการณ์เปิดเทอมครั้งแรกในรั้วมหาวิทยาลัย

A : เปิดเทอมมหาวิทยาลัยวันแรกสำหรับเรา มีทั้งความกลัวและความตื่นเต้นผสมกันอยู่ ที่บอกว่าตื่นเต้น ก็เพราะว่าเราจะได้เจอเพื่อนใหม่ๆ เรียนรู้ชีวิตการศึกษาแบบใหม่ๆ แต่สิ่งที่มันกลัวมากก็็คือว่า เรามาจากต่างจังหวัด เราไม่ใช่เด็กในกรุงเทพ เมื่อต้องเข้ามาเรียนที่นี่ เราไม่รู้ว่าเราจะเจออะไรบ้าง จะเจอเพื่อนในรูปแบบไหนบ้าง ก็กลัวด้วยตื่นเต้นด้วย แล้วก็ลุ้นว่าเราจะเจอคนแบบไหนกันนะ (^^)

Q : มีวิธีการเตรียมตัวก่อนเปิดเทอมยังไงบ้าง

A : ไม่ได้เตรียมอะไรเลย ก็คือไปเลย (555+)

Q : เปิดเทอมมหาวิทยาลัยต่างกับเปิดเทอมสมัยประถม มัธยม อย่างไรบ้าง

A : เราไม่ต้องเข้าแถว เราไม่ต้องเคารพธงชาติ เราไม่ต้องสวดมนต์ นี่คือสิ่้งที่รอมาตั้งนาน ล้อเล่นนะครับ (555+) จากแต่เดิมเมื่อตอนประถม มัธยม เราจะแบบนี่เราต้องตื่นแต่เช้าหรอ ก็แอบขี้เกียจนิดหนึ่ง แต่พอขึ้นมาอยู่มหาวิทยาลัย มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเรามากๆ แค่ชุดมันก็แปลกแล้ว ตอนใส่ชุดวันแรก เนคไทยังผูกไม่เป็นเลย (555+) แล้วจากที่เคยใส่กางเกงขาสั้น รองเท้านักเรียน อันนี้ กางเกงสแล็ก เสื้อแขนยาว เนคไท ตอนแรกนึก อูยย...เรียบร้อยมาก เท่มาก แต่พอไปเห็นที่มหาวิทยาลัย เราช็อคเลย เฮ้ย! ทำไมรุ่นพี่เขาไม่เห็นแต่งแบบเราเลย เราดูเรียบร้อยเกินไปเปล่าเนี่ย มันก็เป็นอะไรที่แปลกๆ ดี

Q : ปรับตัวกับการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างไรบ้าง

A : เป็นไปเองตามธรรมชาติครับ คือต้องเรียนรู้วิถีชีวิตใหม่ๆ อย่างเช่น การทำความรู้จักกับเพื่อน อ้อ!อันนี้เลยครับ เรื่องเรียน จากที่เคยเรียนวันละหลายวิชา ก็ลดลงเหลือแค่ 2-3 วิชาเวลาที่เหลือก็จะว่างมาก แต่ช่วงแรกๆ ที่เข้ามาตอน ปี 1 ก็จะมีการทำกิจกรรมครับ คือการรับน้อง ตอนรับน้องวันแรก ครั้งหนึ่งในชีวิตมหาวิทยาลัย มันก็เป็นอะไรที่ทุกคนต้องเจอ แต่เราได้เข้าแค่ครั้งเดียว (555+) แล้วก็ไม่ได้เข้าอีกเลย เพราะว่าเป็นช่วงที่เรากำลังทำงานพอดี

Q : คิดยังไงกับประเพณีรับน้อง

A : เป็นประเพณีที่ดีนะครับ ถึงเราจะได้เข้าครั้งเดียวก็เถอะ (555+) แต่วันนั้นรุ่นพี่เขาก็จะแนะนำการใช้ชีวิตมหาวิทยาลัยว่าอยู่กันยังไง อะไรเป็นอะไร ก็มีการสอนเพลง สอนเชียร์ สอนบูม แล้วก็ให้เราจำเพื่อนที่นั่งข้างกัน เป็นการสร้างความสัมพันธ์ทั้งรุ่นพี่ และรุ่นน้องไปในคราวเดียวกัน เราว่าดีนะ เป็นประเพณีที่มีมานานแล้ว สืบต่อกันมา แต่ช่วงรับน้องมันก็จะมีข่าวเรื่องความรุนแรง เราไม่อยากให้ทำอย่างนั้น อยากให้นึกถึงความปลอดภัยของรุ่นน้องด้วย เราว่าทำอะไรง่ายๆ ภายในมหาิวิทยาลัย ที่ทำให้รุ่นน้องรู้จักกัน ช่วยเหลือกันและกัน เป็นมิตรกันดีกว่า

Q : สร้างแรงจูงใจในการเรียนอย่างไรบ้าง

A : จริงๆ เราว่า แรงจูงใจมันน่าจะมาจากการเลือกเรียนในสาขาที่ชอบมากกว่านะ อย่างเราเลือกเรียนสาขาภาพยนตร์ เราก็จะได้เรียน ได้รู้ ในสิ่งที่เราชอบทุกๆ วัน มันก็มีความสุข แล้วก็อยากมาเรียน แต่ก็มีช่วงแรกๆ นะ งงว่า ทำไมจบ ม. 6 แล้วทำไมยังต้องมานั่งเรียนคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษอีก ทำไมไม่สอนเรื่องการถ่ายทำภาพยนตร์ไปเลย ว่าถ่ายยังไง ไฟจัดยังไง แต่ตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจว่า ความรู้พื้นฐานเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะเป็นสิ่งที่เราสามารถนำไปใช้ได้ในทุกๆ วัน

พอขึ้นปี 2 ก็ได้เริ่มจับโน่นจับนี่มากขึ้น โชคดีที่เรามีโกาสได้สัมผัสการถ่ายทำจริงๆ มาแล้ว เหมือนมีพื้นฐานนิดหนึ่ง (555+) อาศัยการจำเอาว่าทีมงานแต่ละคนทำอะไร ยังไงบ้าง อย่างตอนที่เราถ่ายภาพยนตร์ เราเห็นพี่ๆ เขาทำงาน นั่นคือมืออาชีพ เราคือมือสมัครเล่น เรายังไม่ถึงขั้นอาชีพ เรายังไม่เร็วเท่านั้น เช่น เขาใช้เวลาจัดแสง 5 นาที จัดเสร็จหมดเลย เราอาจจะใช้เวลาอย่างช้าสุดคงจะครึ่งชั่วโมง ของเด็กที่เพิ่งทำเป็น แต่อย่างน้อยเราก็ได้เห็นขั้นตอนการทำงานว่าทำอย่างไร 1 2 3 4 โชคดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ สาขาที่เราเรียนจะมีการเรียนการสอนที่ชัดเจน คือไม่ใช่สอนแต่ทฤษฎีอย่างเดียว เขาเปิดโอกาสให้เราได้ปฏิบัติจริง แล้วอาจารย์ก็ดูแลอย่างใกล้ชิด ออกกองก็ออกไปกับเรา คอยแนะนำ ให้คำปรึกษา แล้วก็ถ้ามีโอกาสเราก็จะถามกับพี่ๆ ในกองถ่ายภาพยนตร์ว่า ไมค์บูมถือยังไง ใช้ไฟกี่ดวงอะไรประมาณนี้

ตอนแรกเราก็ยังไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรต่อดี แต่พอได้มาแสดงภาพยนตร์ ถ่ายไป ถ่ายมา เราก็รู้สึกว่า เฮ้ย เบื้องหลังนี่ เจ๋งมากเลย มันต้องใช้ความละเอียดอ่อนมาก ใช้ใจทำจริงๆ อยู่ไปอยู่มาก็ชอบ แล้วอีกอย่างรุ่นพี่ที่ ม.รังสิต มาฝึกงานที่กอง เขาก็พูดกรอกหูอยู่ทุกวัน (555+) แล้วเราก้ทำงานอยู่ทุกวัน ก็เลยโอเค ลองเลือกดู พอได้มาเรียนปุ๊บ ก็เออ มันใช่เลย มันอาจจะเหนื่อยกว่าเบื้องหน้า มันเหนื่อยที่ได้คิด มันเหนื่อยที่ได้ทำ แต่มันก็สนุก


Q : มีสาวๆ เป็นแรงจูงใจบ้างไหมเนี่ย

A : โอ้ นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก (555+) ยิ่งมหาวิทยาลัยนะ คือปี 1 ก็ตื่นเต้นเลย ลืมพูดได้ไงเนี่ยเรื่องนี้ ปกติเราเคยเห็นแต่ชุดนักเรียน ม.ต้น ม.ปลาย แต่พอมา มหาวิทยาลัย มันจะใส่สั้นไปไหนกันก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจเหมือนกัน ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ ทรงเอ กระโปรงพลีทไรงี้ คือไร พอเห็นแล้วก็โอ้ มหาวิทยาลัยมันก็ดีอย่างเงี้ย ผมล้อเล่นนะ ใส่สั้นมากก็อันตราย

Q : ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยสอนอะไรเราบ้าง

A : สอนให้โตขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก ตอนเรียนมัธยม เกเรมาก ไม่เข้าเรียนเลย 0 ร มส มผ ไรนี่ เอามาหมด เอามาเยอะด้วย แล้วไม่ได้เอามาแค่เทอมเดียวนะ เจอกันทุกเทอม ทุกปี ตั้งแต่ ม.4 มา แต่อันนั้นมันดีที่ว่า เราติดปุ๊บ เราให้พ่อแม่ผู้ปกครองมาเซ็น แล้วเราก็ไปแก้ แต่มหาวิทยาลัย ถ้าติด F เราก็จะเสียตัวนั้นไป แล้วเราต้องลงเรียนใหม่ เราต้องเสียเงินเพิ่ม มันทำให้เราคิดว่า เราอยากเสียเงินหรือเปล่า อะไรแบบนี้ มันเลยทำให้เราคิดได้

อีกอย่างหนึ่งคือ จากเด็กที่ชอบโดดเรียนมาก แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยปุ๊บ ก็เปลี่ยนนิสัยไปเลย เพราะมหาวิทยาลัยเข้า-ออกง่ายมาก อยากเข้าก็เข้า อยากออกก็ออก เรื่องของเธอ แต่เธอต้องยอมรับผลที่ตามมา ไม่มีอีกแล้วที่ให้ผู้ปกครองมาเซ็นชื่อ แล้วขอแก้ตัวใหม่ ตกคือตก แต่ตอนมัธยม โรงเรียนจะปิดประตูกั้นเอาไว้ ไม่ให้นักเรียนออก มันก็ดูท้าทายเรา เราก็ชอบปีน พอเราจะออก รปภ.ก็จะเอาไม้กัน สอบไม่ผ่านก็ไปแก้ แต่ที่มหาวิทยาลัยไม่มีแบบนี้ ก็เลยนั่งเรียนดีกว่า ก็งงตัวเองเหมือนกันว่าพอเข้ามหาวิทยาลัยแล้วตั้งใจเรียนมากขึ้น

Q : แบ่งเวลาเรียน-ทำงานอย่างไรบ้าง

A : ยึดการเรียนเป็นหลักครับ คือจะให้เวลากับการทำงานในวงการบันเทิงเฉพาะเวลาที่ว่างจากการเรียน แต่ในกรณีจำเป็นจริงๆ อย่างการที่รับงานไว้ก่อนที่ตารางเรียนจะออก ก็จะขอลาไปทำงานครับ ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นอะไรก็ขอเรียนก่อนครับ

Q : ฝากถึงน้องๆ เฟรชชี่ ที่เปิดเทอมใหม่

A : จริงๆ ผมไม่ใช่เด็กที่เรียนเก่ง ไม่ใช่เด็กที่อยากจะเลือกเรียน เป็นเด็กที่ขี้เกียจ แล้วก็ไม่ชอบเรียนมาก แต่มันคือหน้าที่ คือความรับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อพ่อแม่ คนเราเกิดมามีหน้าที่ของตัวเอง ที่ต้องทำ ต้องรับผิดชอบ ก็อยากให้น้องๆ ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดครับ (^^)

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่เป็นแฟนอาร์ตี้ ก็อย่าลืมติดตามผลงานของหนุ่มคนนี้ด้วยนะคะ...^^

ประวัติของอาร์ตี้ ธนฉัตร

ชื่อ : ธนฉัตร ตุลยฉัตร
ชื่อเล่น : อาร์ตี้
วันเกิด : 1 ธันวาคม 2533
การศึกษา : จบระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ระดับมัธยมศึกษาศึกษาจากโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ปัจจุบันกำลังศึกษาที่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์และวีดีทัศน์ มหาวิทยาลัยรังสิต
ผลงาน : บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู, บีฟอร์ วาเลนไทน์, อนึ่ง...คิดถึงเป็นอย่างยิ่ง, บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ, ฮาศาสตร์ และผลงานอื่นๆ

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

อัลบั้มภาพ 21 ภาพ

อัลบั้มภาพ 21 ภาพ ของ ต้อนรับเปิดเทอมกับ อาร์ตี้ ธนฉัตร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook