เตือน! เด็ก WAT ควรตรวจสุขภาพ ก่อนบินทำงานต่างประเทศ

เตือน! เด็ก WAT ควรตรวจสุขภาพ ก่อนบินทำงานต่างประเทศ

เตือน! เด็ก WAT ควรตรวจสุขภาพ ก่อนบินทำงานต่างประเทศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีคำถามเกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับอาการป่วยในครั้งนี้

เมื่อไม่นานมานี้เพี่อนๆ คงได้ยินข่าวการเสียชีวิตของเด็กไทยในต่างแดน ที่เดินทางเข้าร่วมโครงการ Work and Travel (WAT) ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและเริ่มมีอาการป่วยในเดือนพฤษภาคมจนกระทั้งเสียชีวิตในที่สุด

จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีคำถามเกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับอาการป่วยในครั้งนี้ อย่างแรกเรามาพูดถึงโรคที่เกิดขึ้นกับ "น้องกาว" นางสาวสโรชา เนียมบุญนำ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าป่วยเป็นโรคอะไรและเกิดจากอะไร โรคที่น้องกาวเป็นคือ "โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบฉับพลัน" (Acute Gram-Negative Meningitis)เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมองชั้นในและไขสันหลัง แบ่งชนิดเชื้อออกเป็น 2 ประเภท คือชนิดที่ติดเชื้อจากแบคทีเรียพบได้ไม่บ่อยเท่าเชื้อไวรัสแต่มักจะรุนแรงกว่า ส่วนเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัสนั้นพบได้บ่อยทำให้อาการหนัก ส่วนอาการที่บ่งบอกว่าติดเชื้อนั้นมี ดังนี้ ปวดศีรษะรุนแรงเป็นเวลาต่อเนื่อง มีไข้สูงมือและเท้าเย็น เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสียบางครั้งและหายใจเร็ว

สาเหตุการเกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบฉับพลันนั้น เกิดได้จากเชื้อแบคทีเรียหลากหลายชนิดซึ่งอาศัยอยู่โดยธรรมชาติที่บริเวณด้านหลังของจมูกและคอ เชื้อโรคเหล่านี้สามารถแพร่กระจายได้โดยการไอ จาม การสัมผัสกับอาหารหรือน้ำที่มีสารปนเปื้อน

ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่ผู้ที่กำลังจะออกเดินทางในต่างประเทศ จะต้องมีการตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนให้ครบก่อนออกเดินทาง ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อบังคับสำหรับการเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศเกือบทุกประเทศ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเรื่องนี้ทุกประเทศให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

อย่างที่สอง น้องกาวเดินทางไปต่างประเทศเพียงระยะเวลาสั้น ๆ และมีอาการป่วยขณะอยู่ในโครงการ จึงมีเสียงวิพากวิจารณ์หนาหูเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลของน้องกาวที่เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก รวมทั้งทวงถามถึงการประกันสุขภาพแก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ Work and Travel อันที่จริงโครงการ Work and Travel เป็นโครงการที่รัฐบาลอเมริกาจัดทำขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนจากทั่วโลกเดินทางเข้าประเทศอเมริกาเพื่อทำงาน ท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ดังนั้นระบบการประกันสุขภาพต่างๆ จึงถูกกำหนดให้มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการอยู่แล้ว แต่อาจจะเป็นการประกันสุขภาพที่ไม่ครอบคลุมหรือขึ้นอยู่แต่ละกรณี เช่น กรณีที่เป็นโรคร้ายหรือโรคที่ต้องมีการรักษาจริงจัง แต่สำหรับการเจ็บป่วยโดยทั่วๆ ไปผู้เข้าร่วมโครงการสามารถใช้สิทธิประกันสุขภาพได้เลย แต่ควรแจ้งให้ทางบริษัทประกันสุขภาพทราบด้วย

หลายปีที่ผ่านมามีเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ Work and Travel หลายรุ่นที่เคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาบ้างแต่อาจจะยังไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่เป็นเพียงการเจ็บป่วยหรือแมลงกัดต่อยธรรมดา ดังนั้นเพื่อนๆ ต้องเข้าใจด้วยว่าสภาพภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศแตกต่างกัน ฉะนั้นเชื้อไวรัสหรือที่พักอาศัยในต่างประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อนๆ ควรศึกษาแหล่งสถานที่ที่เราจะทำงานหรือเลือกหาที่พักอาศัยที่สะอาดและถูกสุขอนามัย อย่าคิดว่าหาที่พักราคาถูกเพียงเท่านั้นพอเพื่อจะได้เก็บเงินไว้เที่ยวเยอะ ๆ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการเดินทางไปยังต่างประเทศด้วย เนื่องจากแต่ละคนมีภูมิคุ้มกันไม่เหมือนกันแพทย์จะได้ประเมินสถานการณ์ได้ว่าควรตรวจร่างกายและฉีดวัคซีนอะไรในการป้องกันสำหรับการเดินทางในครั้งนี้อย่างไรได้บ้าง

จากเหตุการณ์ดังกล่าวคงเป็นอุทาหรณ์สอนใจที่ดีให้กับหลาย ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Work and Travel และหันมาให้ความสำคัญต่อการดูแลเอาใจในเรื่องสุขภาพอนามัยของเยาวชนก่อนเดินทางมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ตามมา ท้ายนี้ทีมงาน "นิตยสารการศึกษาวันนี้" ขอไว้อาลัยให้กับน้องกาวสาวน้อยคนเก่งของเราทุกคน

ที่มา "การศึกษาวันนี้"

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ ของ เตือน! เด็ก WAT ควรตรวจสุขภาพ ก่อนบินทำงานต่างประเทศ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook