รวมพลังสร้างสังคมไทยปลอดบุหรี่

รวมพลังสร้างสังคมไทยปลอดบุหรี่

รวมพลังสร้างสังคมไทยปลอดบุหรี่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"...บุหรี่..." ยังคงถือเป็นภัยร้ายที่ทำลายคนในสังคมอยู่ ถึงแม้ปัจจุบันแนวโน้มการสูบบุหรี่ของคนไทยในภาพรวมจะดูดีขึ้น หากแต่มองย้อนกลับไปดูตัวเลขที่เพิ่มขึ้น เป็นที่น่าตกใจเมื่อกลายเป็นกลุ่มของผู้หญิงและเยาวชนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย หากปล่อยไว้เช่นนี้ สังคมไทยเราคงจะมีแต่มัจจุราชในคราบของควันบุหรี่ลอยอยู่เต็มทุกพื้นที่เป็นแน่...

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ.นพ. ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขามูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ บอกกับเราว่า ปัจจุบันแนวโน้มการสูบบุหรี่ของคนไทยใน 5 ปีหลังนี้ไม่ลดลงเลย โดยมีผู้ชายที่สูบบุหรี่ประมาณ 42 % หรือประมาณ 11 ล้านคน เป็นผู้หญิง 3 % หรือประมาณ 8 แสนกว่าคน รวมทั้งสิ้นประมาณ 12 ล้านคนที่สูบบุหรี่ โดยจะเห็นได้ว่าในกลุ่มของผู้หญิงมีแนวโน้มสูงขึ้นมาก ส่วนในกลุ่มเด็กผู้ชายก็เพิ่มขึ้นแต่น้อยกว่าผู้หญิง

"ถึงแม้จะมีกฎหมายในเรื่องของการห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่ต่างๆ ออกมา แต่เราก็ยังคงพบว่ามีการฝ่าฝืนอยู่จำนวนมากเช่นกัน จากผลการสำรวจเมื่อปี 52 พบว่า จากผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ประมาณ 27 ล้านคนยังคงได้รับควันบุหรี่มือสองจากที่ทำงานประมาณ 3.8% ในสถานบริการสาธารณสุข 2.2% ภัตตาคาร 8.8% ยวดยายสาธารณะ 6.9%และตลาดสูงถึง 54% เฉพาะในที่ทำงานภายในอาคารมีผู้ไม่สูบบุหรี่ทั่วประเทศที่ได้รับควันบุหรี่มือสองถึง 2,219,000 คนเลยที่เดียว ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดจะเป็นปัญหามากกว่าในกรุงเทพ" ศ.นพ.ประกิตกล่าว

โดย ศ.นพ.ประกิต บอกต่อว่า การจะสร้างให้สังคมไทยปลอดบุหรี่เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกัน เพียงแค่ติดสติกเกอร์ห้ามสูบบุหรี่ตามสถานที่ต่างๆก็ถือว่าช่วยกันแล้ว เพราะจากรายงานของกรุงลอนดอนซึ่งห้ามสูบบุหรี่ในที่ทำงานและสถานที่สาธารณะทุกประเภทตั้งแต่ 2550 ก็พบว่า การติดสติกเกอร์สัญลักษณ์ปลอดบุหรี่มีความสำคัญที่สุดในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปรู้ถึงสถานที่ห้ามสูบบุหรี่ และทำให้เกิดการปฏิบัติตามกฎหมายถึง 97 %จึงขอให้สถานที่สาธารณะและสถานที่ทำงานที่ห้ามสูบบุหรี่ตามประกาศฉบับที่ 19 ของกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการติดสติกเกอร์เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้คนไม่สูบบุหรี่

เมื่อบุหรี่ไม่เคยให้ประโยชน์แก่ใคร แต่กลับให้แต่โทษ อีกทั้งยังคร่าชีวิตคนไปแล้วกว่า 6 ล้านคนต่อปี หรือวันละ 16438 คน อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของโรคร้ายอีกว่า 60 โรค คงถึงเวลาแล้วที่ทุกคน ต้องลุกขึ้นมาสร้างสังคมไทยให้ห่างไกลบุหรี่ โดย หมอประกิต ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า คนสูบบุหรี่มีเป็นสิบล้านคน ลำพังคนไม่กี่คนมาร่วมรณรงค์ผลักดันทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ สังคมต้องลุกขึ้นมาช่วยกัน ทั้งโรงเรียน โรงงาน สถานประกอบการ สถานที่ราชการ สถาบันอุดมศึกษา ต้องมาร่วมกันสร้างค่านิยมใหม่ ทำให้เกิดค่านิยมไม่สูบบุหรี่ขึ้นในสังคมไทย แล้วทั้งหมดนี้ก็จะเป็นตัวไปกำกับให้คนในสังคมสูบบุหรี่น้อยลงเองอย่างอัตโนมัติ ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามกฎหมายและที่สำคัญต้องช่วยกันเฝ้าระวัง รู้ให้เท่าทันบริษัทบุหรี่ ซึ่งในขณะนี้บริษัทบุหรี่ทั้งหลายต่างกำลังสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ด้วยการทำกิจกรรม บริจาคสิ่งของต่างๆ ให้แก่หน่วยงาน โรงเรียน องค์กรส่วนท้องถิ่น เพื่อหวังลดทอนกระแสการควบคุมยาสูบ

"สังคมต้องรู้เท่าทัน อย่าไปรับสิ่งของต่างๆ จากบริษัทบุหรี่ เพราะนั่นคือการโฆษณาทางอ้อม อย่าทำให้เยาวชนมองว่าการสูบบุหรี่เป็นเรื่องปกติ เมื่อกฎหมายการควบคุมยาสูบของโลกได้กำหนดมาให้แต่ละประเทศไปออกกฎหมายห้ามบริษัทบุหรี่ทำกิจกรรมเพื่อสังคม แต่ของประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายเรื่องนี้ จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ มันจะทำให้กระแสการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ลดน้อยลงจากสังคม และนั่นก็หมายความว่าสังคมไทยต้องตกอยู่ในอันตรายจากควันบุหรี่ต่อไป"หมอประกิต...

มาร่วมกันขจัดควันบุหรี่ให้หมดไปจากสังคมกันเถอะคะ ก่อนที่มันจะมาพรากชีวิตของคนที่คุณรัก มาเริ่มต้นรวมพลังสร้างสังคมไทยให้ปลอดบุหรี่....

เรื่องโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

ภาพประกอบจาก www.photos.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook