Resume สุดฮิป! เพื่อเพิ่มโอกาสให้ได้งาน

Resume สุดฮิป! เพื่อเพิ่มโอกาสให้ได้งาน

Resume สุดฮิป! เพื่อเพิ่มโอกาสให้ได้งาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

เป็นคุณจะรับมั้ย?
สำหรับคนที่กำลังคิดหา งานใหม่ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ยิ่งระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม อัตราการแข่งขันจะสูงขึ้นเป็นพิเศษ อันเนื่องมาจากเป็นช่วงนิสิต-นักศึกษาจบใหม่ต่างทยอยถือใบทรานสคริปต์เข้ามา ในตลาดแรงงานเป็นจำนวนมาก ภาวะแบบนี้คงจะมีแต่นายจ้างเท่านั้นที่มีความสุขกับการคัดเลือก (หรือคัดลงถังขยะ) ผู้สมัครงานที่น่าสนใจ

 

 

แต่สำหรับเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านในฉพาะบทความนี้ ขอให้สบายใจได้เลย เพราะทางเว็บไซต์ aripได้รวบรวมสุดยอดเทคนิคการเขียน Resume ขั้นเทพในยุค onLike ...ไม่ใช่สิ online มาให้ได้ติดตาม และทดลองทำด้วยตนเอง ว่าแล้วเราไปดูแบบแรกกันเลยดีกว่า


1. Info Graphic - ใช้รูปสื่อสารแทน "อาร์ต"สักนิดชีวิตจะดีขึ้น

บริษัทดังๆ ภาพลักษณ์ดีๆ ใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากเข้าไปทำงานกันทั้งนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้คงไม่แปลก หากบริษัทที่มีชื่อเสียงจะเป็นเป้าหมายที่ผู้หางานใหม่ต่างยื่น Resume สมัครเข้าทำงานเข้าไปเป็นจำนวนมาก บริษัทยิ่งดัง ตัวเลือก (คนสมัคร) ยิ่งเยอะ แล้วทำยังไงให้ Resume ของเราโดดเด่นจนเข้าตานายจ้างได้ล่ะ ที่สำคัญมันจะต้องแตกต่างจาก Resume ของคู่แข่งที่อยู่ในแฟ้มเดียวกันอีกด้วย :D

Resume แบบเดิมๆ อาจจะไม่ชวนสะดุดตา ลองหาวิธีใหม่ในการนำเสนอตัวเองด้วย Resume ที่ออกแบบให้ฮิพสักหน่อย เพิ่มเข้าไปให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น ท่าจะดีเหมือนกัน

 

 

 

วิธีแรกเลยก็คือ เพื่อนๆ อาจจะลองใส่รูปภาพเข้าไป Resume ดูบ้างนอกจากตัวอักษร แต่ต้องพอดีและเหมาะสมกับตำแหน่งของงาน ไม่ใช่ใส่จนเลอะเทอะไม่สวยงาม (ถ้าเป็นพวก art ก็ต้องเยอะหน่อยนะคะ) ข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ได้บ้าง ซึ่งความจริงยังมีตัวอย่างสวยๆ อีกมากมายอยู่ในเว็บไซต์ deviantart.com ครับ

 

 

สำหรับเทคนิคที่กำลังเป็นที่นิยมในการนำเสนอข้อมูลแบบสรุปย่อของคนรุ่น ใหม่ก็คือ Infographic (Info+Graphic = ข้อมูล+ภาพ) หรือพูดง่ายๆ ก็คือ การใช้ภาพแสดงแทนข้อมูล เนื่องจากผู้คนในโลกยุคใหม่ จะสนใจอ่านตัวหนังสือ"น้อยลง" แต่รับข้อมูลที่เป็นภาพ (หรือ มัลติมีเดีย) มากขึ้น เพื่อนๆ อาจจะงง หรือนึกไม่ออกว่า Resume ที่เขียนแบบ Infographic คืออะไร ทางเราได้หาตัวอย่างเจ๋งๆ มาให้ดูกันด้วย

 

 


2. QR Code - ยิงปุ๊บโทรปั๊บ

คงจะน่าสนใจไม่น้อย หาก Resume ของคุณโต้ตอบกับฝ่ายบุคคลของบริษัทได้ทันที ฉะนั้นแล้ว การมี QR Code อยู่บน Resume ถือเป็นการเชื้อเชิญให้นายจ้างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสแกน หากเกิดรู้สึกสนใจในประวัติของคุณ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า QR Code เมื่อถูกสแกนจะเชื่อมโยงไปยังข้อความหรือ URL ที่พาไปยังเว็บไซต์ต่างๆ ได้ ยิ่งถ้าหากนายจ้างสแกนขึ้นมาเป็นเบอร์โทรศัพท์ของคุณก็ยิ่งดีใหญ่

 

 

 

เทคนิคนี้เป็นมุขของนาย Victor Petit ชาวฝรั่งเศสที่คิดคอนเซปในการใช้ QR Code กับ Resume ร่วมกัน ลองเข้าไปดูคลิปสาธิตคอนเซปนี้ได้ที่ http://vimeo.com/21228618 แล้วคุณจะชอบ


3. Social Network - เผยตัวตนของคุณให้นายจ้างเห็น

Resume แบบเดิมๆอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่ทำให้นายจ้างรู้จักตัวตนที่แท้จริงของ ผู้สมัคร หลายครั้งหากบริษัทดังๆรู้จักคุณมากกว่านี้คงจ้างคุณไปทำงานด้วยไปนานแล้ว (หรือถ้ารับไปแล้วอาจคิดว่า ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้ไม่รับซะดีกว่า) Social Network หรือสังคมออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง facebook ถือเป็นอีกช่องทางสำคัญเพื่อใช้สื่อสารหรือบอกบริษัทให้รู้จักตัวตนของคุณ มากขึ้น แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ รายละเอียด ประวัติต่างๆ ควรอัพเดทและทำให้ถูกต้องอยู่เสมอ

 

 

 

ตัวอย่างของ Henry OLoughlin ที่ใช้ Social Network อย่าง facebook มาใช้เป็น Resume แทนรูปแบบเดิมๆ โดยในคลิป Henry ได้แนะนำ การใช้ความสามารถต่างๆใน facebook ให้เกิดประโยชน์ในการสมัครงาน http://www.youtube.com/watch?v=TjssNSRXdjU ดัง นั้น หากคุณกำลังหางานใหม่ อย่าลืมใส่ URL facebook ของคุณลงใน Resume ด้วย ไม่แน่คนกดไลค์ถูกใจให้คุณหนึ่งในนั้นอาจเป็น HR บริษัทที่คุณกำลังจะยื่น Resume สมัครงานอยู่ก็ได้


4. TAG, Keywords - รู้เขา เรารู้ เขาเจอเราแน่นอน

หลายคนที่เคยผ่านประสบการณ์หาทำงานมาก่อนอาจจะคุ้นเคยกับการกรอกข้อมูล สมัครงาน ผ่าน Application online หรือ อัพโหลดไฟล์ Resume ขึ้นไปยังเวบไซท์สมัครงาน หรือเว็บบริษัทที่เราต้องการสมัครโดยตรง ซึ่งปกติแล้วเวบไซท์เหล่านี้จะมีเครื่องมือสำหรับนายจ้างค้นหารายชื่อคนที่ เหมาะกับตำแหน่งงานมากที่สุด เช่น ค้นหาตามตำแหน่ง, อายุงาน, ความสามารถพิเศษ, นิสัย เป็นต้น

 

 

 

 

จะเป็นการดีกว่า หากเรากรอกข้อมูลให้ชัดเจนถูกต้อง และตรงกับ"ตัวเรามากที่สุด" อีกทั้งใส่ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นคุณสมบัติที่สัมพันธ์กับตำแหน่งที่ต้องการ สมัครเพื่อให้นายจ้างค้นหาเราเจอผ่านข้อมูลออนไลน์ได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ไม่ควรเป็นบิดเบือนไปจากความจริง เพราะสุดท้ายจะถูกจับได้ว่าโกหกในตอนสัมภาษณ์


5. Multimedia, Website

การใช้คลิปวีดีโอ หรือเว็บไซต์สามารถถ่ายทอดเรื่องราวและตัวตนของคุณถือเป็นเทรนด์ใหม่กำลัง ได้รับความนิยมในการใช้สมัครงาน นอกจากนี้ยังมีเทคนิคและลูกเล่นใหม่ๆเพิ่มเติมเข้ามาทำให้ผู้สมัครมีภาพ ลักษณ์ดูดีมีกึ๋นมากขึ้น

ตัวอย่างคลิปแนะนำตัวสุดครีเอทของนาย Graeme Anthony ซึ่งแนะนำเทคนิคพื้นฐานในการใช้คุณสมบัติ ง่ายๆบน youtube อย่างเช่น ข้อความประกอบ (Annotation) ประยุกต์ใช้ให้เป็น Resume The Movie ที่มี interactive กับผู้ชม โดยในตอนจบสามารถคลิกเชื่อมต่อไปยังคลิปแนะนำตัวอื่นๆ ของ Graeme ได้

คลิปต่อมาเหมือนจะไม่ได้ตั้งใจมาสมัครงาน ออกจะคล้ายๆเดอะสตาร์ เอเอฟ ไทยแลนด์กอททาเล้นท์ ที่ขนความสามารถด้านดนตรีงัดออกมาโชว์อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะทั้งร้องทั้งเล่นกีต้าร์ควบคู่กันไป แต่เมื่อได้ฟังเพลงที่นาย Alec Biedrzycki ร้องแล้วก็ต้องอดขำไม่ได้กับคอนเซป Resume The Musical ที่ใช้ร้องเพลงเล่าประวัติของตนเองอย่างสนุกสนาน แถมท่อนฮุค "Hire Me!"(จ้างผมที!) สร้างสรรค์แบบนี้โฟว์เอสรับอยู่แล้วครับท่าน

 

 

 

 

สุด ท้ายเห็นชาวโลกเขามีไอเดียการสมัครงานที่วิวัฒนาการไปไกลขนาดนี้ เพื่อนๆ คนไหนที่คิดจะเปลี่ยนงานก็ลองเอาตัวอย่างไปประยุกต์ใช้ดูบ้างก็ได้ ไม่แน่สถานการณ์การสมัครงานอาจจะพลิกผัน กลายเป็นเราเองที่นั่งกระดิกเท้าอย่างมีความสุขกับการช็อปปิ้งชี้นิ้วเลือก บริษัทที่ตอบรับคุณเข้าทำงานบ้างก็เป็นได้ แต่ถ้าหากที่เดิมดีอยู่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนงาน หรอกนะครับ เพราะอย่างที่ทราบๆ กันดีกว่า "งาน" วันนี้ไม่ได้หากันง่ายๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.arip.co.th/

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook