เภสัชฯ มศก. ตรวจโลหะหนักในเครื่องแกงและชาสมุนไพร เตือน!!! มีผลต่อสุขภาพ

เภสัชฯ มศก. ตรวจโลหะหนักในเครื่องแกงและชาสมุนไพร เตือน!!! มีผลต่อสุขภาพ

เภสัชฯ มศก. ตรวจโลหะหนักในเครื่องแกงและชาสมุนไพร เตือน!!! มีผลต่อสุขภาพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มีประชาชนสักกี่คนทราบว่าในเครื่องแกงที่มีการใช้ปรุงอาหารตำรับอาหารไทยนั้น มีอยู่ไม่น้อยที่มีการปนเปื้อนของโลหะหนักบางชนิดที่เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิต ในปัจจุบันหลายคนหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติด้วยความเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติจะส่งผลถึงความปลอดภัยต่อร่างกายและลดความเสี่ยงในการรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย ในปัจจุบันมีรายงานการปนเปื้อนของโลหะหนักที่เป็นพิษต่อร่างกายมนุษย์ เช่น ปรอท สารหนู ตะกั่ว ปนเปื้อนในอาหารและสมุนไพรชนิดต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ถ้าได้รับเป็นประจำจะส่งผลให้เกิดพิษสะสมในระยะยาวซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย


ภญ.รศ.ดร. ชุติมา ลิ้มมัทวาภิรัติ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้ทำวิจัยเรื่อง "การตรวจสอบปริมาณโลหะหนักปนเปื้อนในชาสมุนไพรและเครื่องแกงโดยใช้ ICP-MS" กล่าวว่า "สาเหตุของโลหะหนักที่ปนเปื้อนในสมุนไพรและอาหาร เกิดจากการใช้สารเคมีต่างๆ ในการเพาะปลูกพืช เช่น ปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง รวมถึง กระบวนการเก็บเกี่ยว การเก็บรักษา และการขนส่ง ที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ภาชนะหรืออุปกรณ์ รวมถึงเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตยังอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีการปนเปื้อนของโลหะหนัก โลหะหนักบางชนิดเป็นธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ แต่ร่างกายต้องการในปริมาณต่ำมาก ถ้าได้รับมากเกินไปอาจก่อให้เกิดพิษได้ แต่สำหรับโลหะหนักบางชนิดนอกจากจะไม่จำเป็นต่อร่างกายแล้วยังเป็นพิษต่อร่างกายได้" จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ภญ.รศ.ดร. ชุติมา ลิ้มมัทวาภิรัติ์ และคณะ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการตรวจสอบปริมาณโลหะหนักปนเปื้อนโดยใช้ ICP-MS ซึ่งเป็นเทคนิคที่สามารถวิเคราะห์หาปริมาณโลหะหนักได้หลายธาตุพร้อมกัน มีความไวสูง นอกจากนี้ยังให้การวิเคราะห์ที่มีความถูกต้องและแม่นยำอีกด้วย


ในการวิจัยครั้งนี้มีการสุ่มเก็บตัวอย่างเครื่องแกงเผ็ด แกงเขียวหวาน ชาใบหม่อน และ ชาคำฝอย จาก 10 จังหวัดในภาคตะวันตก พบว่าตัวอย่างเครื่องแกงเขียวหวานและชาคำฝอยมีการปนเปื้อนของโลหะหนักที่สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน โลหะหนักที่พบได้บ่อยว่ามีปริมาณสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานในเครื่องแกงเขียวหวานคือทองแดง (Cu) ในขณะที่โลหะหนักที่พบได้บ่อยว่ามีปริมาณสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานในชาคำฝอยคือเหล็ก (Fe) ซึ่งทั้งทองแดงและเหล็กจัดเป็นโลหะหนักที่มีความสำคัญต่อร่างกาย แต่หากได้รับในปริมาณสูงหรือได้รับสะสมเป็นระยะเวลานาน อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้


ผู้วิจัยยังกล่าวอีกว่า "โลหะหนักประเภทสารหนูจัดเป็นเภสัชวัตถุในตำรับยาแผนโบราณซึ่งใช้ในปริมาณที่ต่ำมาก มีรายงานการพบสารหนูในยาลูกกลอนของประเทศจีน ซึ่งเป็นพิษต่อระบบโลหิต ไต ทางเดินอาหาร และผิวหนัง โดยจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ นอกจากนี้ในประเทศไทยยังพบการปนเปื้อนของสารหนูในชาคำฝอย"


จากการวิจัยส่งผลให้คณะเภสัชศาสตร์จัดการอบรมเกี่ยวกับอันตรายจากการปนเปื้อนของโลหะหนักในยาสมุนไพรและอาหารที่ประกอบด้วยพืชสมุนไพร โดยให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป เกษตรกร และ ผู้ผลิตสินค้าจากพืชสมุนไพร รวมถึงประชาชนทั่วไป ให้ตระหนักถึงอันตรายจากโลหะหนักปนเปื้อน หันมาใส่ใจมากขึ้นในขั้นตอนการเพาะปลูกที่ไม่ใช้สารเคมีอันตราย และกระบวนการผลิตที่ถูกต้องเหมาะสม นอกจากนี้ผู้บริโภคยังได้ทราบถึงวิธีการเลือกรับประทานสมุนไพรและอาหารปลอดภัยอีกด้วย


ในอนาคตผู้ศึกษาวิจัยมีโครงการจะศึกษาปริมาณโลหะหนักในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยพืชสมุนไพรไทยเพื่อส่งเสริมการส่งออก เนื่องจากในหลายประเทศมีการกำหนดเกณฑ์ของโลหะหนักปนเปื้อนในสมุนไพรและอาหารต่างๆ หากผู้ผลิตในประเทศไทยสามารถลดปริมาณการปนเปื้อนลงได้ก็จะทำให้สินค้าได้รับการยอมรับจากนานาประเทศเพิ่มมากขึ้น "สำหรับนักวิจัยควรเล็งเห็นการทำงานวิจัยที่ยังประโยชน์ให้แก่ประเทศ เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณของแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่อย่างร่มเย็นมาตลอดชีวิต พยายามทำงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะการได้บริโภคสมุนไพรและอาหารปลอดภัยจากโลหะหนักที่เป็นพิษ" ผู้วิจัยกล่าว


ส่วนน้องๆ นักศึกษาที่กำลังสนใจศาสตร์ทางด้านเภสัชศาสตร์ สามารถเข้าศึกษาต่อทางด้านสาขาวิชาเภสัชศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งขณะนี้ทางคณะฯ ได้เปิดรับสมัคร Direct Admission รอบที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2555 แล้ว ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมและกรอกใบสมัครออนไลน์ได้ที่ www.pharm.su.ac.th หรือ http://www.research.su.ac.th/pharm/ โดยจะสิ้นสุดการรับสมัครในวันที่ 15 กันยายน 2554 นี้


"คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นองค์กรสร้างปัญญาทางเภสัชศาสตร์ สู่สังคมระดับนำของประเทศ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook