"เบสท์" กำพล อัครวราวงศ์ รับทุนโอลิมปิก เรียนต่อวิทย์ ป.ตรี-เอก

"เบสท์" กำพล อัครวราวงศ์ รับทุนโอลิมปิก เรียนต่อวิทย์ ป.ตรี-เอก

"เบสท์" กำพล อัครวราวงศ์ รับทุนโอลิมปิก เรียนต่อวิทย์ ป.ตรี-เอก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรื่องราวของ "พิชิตทุน" ฉบับนี้ อาจจะดูเฉพาะเจาะจงไปสักนิด เนื่องจาก "ทุนโอลิมปิกวิชาการ" เขาจะให้เฉพาะนักเรียนที่เข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการเท่านั้น แต่ที่นำมาเล่าให้ฟัง เผื่อว่าใครที่สนใจอยากจะได้ทุนนี้ในอนาคต อาจต้องเตรียมตัวเสียแต่เนิ่น ๆ ไม่อย่างนั้นคงหมดโอกาสแน่นอน

"น้องเบสท์" นายกำพล อัครวราวงศ์ สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ อีกหนึ่งคนเก่งที่ได้รับทุนโอลิมปิก ( ทุนโอลิมปิกวิชาการ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์) เป็นทุนที่ให้ไปศึกษาต่อด้านวิทยาศาสตร์ในระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก โดยผู้รับทุนสามารถเลือกประเทศที่จะไปเรียนได้ ส่วนมหาวิทยาลัยนั้นผู้รับทุนต้องดำเนินการสมัครเข้าเรียนต่อด้วยตนเอง

โดยปรกติแล้วทุนโอลิมปิกจะมอบให้กับผู้ที่เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการในทุกสาขาวิชา หรือ คนที่เข้าร่วมโครงการโอลิมปิกวิชาการแต่ไม่ได้เป็นผู้แทนก็สามารถสมัครขอรับทุนได้ ผมรู้จักทุนนี้ตอนเข้าโครงการฟิสิกส์โอลิมปิก โดยทุนนี้เป็นทุนที่พระพี่นางพระราชทานให้แก่นักเรียนเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศและนำเอาความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนาประเทศชาติในอนาคต

จุดเด่นของทุนนี้อยู่ที่ผู้รับทุนสามารถเรียนต่อต่างประเทศได้ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีไปจนถึงปริญญาเอกเลย โดยสามารถเลือกประเทศที่ไปศึกษาต่อได้ และเมื่อเรียนจบปริญญาตรีหรือปริญญาโทแล้วสามารถเปลี่ยนประเทศที่จะไปเรียนต่อได้ จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของทุนนี้คือ ทุนนี้จะให้ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทั้งค่าเล่าเรียน และค่าที่พักอาศัย แต่ทุนนี้มีข้อจำกัดอยู่ว่าต้องเรียนต่อในสาขาวิทยาศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ประยุกต์เท่านั้น

ด้วยความที่ผมชอบทางด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว โดยเฉพาะวิชาฟิสิกส์จึงตัดสินใจรับทุนนี้เพื่อไปเรียนต่อด้านวิทยาศาสตร์ตามความใฝ่ฝัน ส่วนสถานที่ที่จะไปเรียนต่อนั้น ต้องเลือกและสมัครเข้าเรียนต่อเองครับ โดยส่วนตัวแล้วตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องสถานที่เรียนต่อ เพราะจะต้องไปเรียนมัธยมปลายต่อที่นั่นอีกหนึ่งปีเพื่อปรับพื้นฐาน

สำหรับขั้นตอนในการเตรียมตัวสอบชิงทุน ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษครับ แค่ตั้งใจเรียนในค่ายโอลิมปิกให้ดีที่สุด และที่สำคัญต้องอยู่ค่ายโอลิมปิกในรอบที่มีสิทธิ์ได้รับทุนด้วย คนที่จะได้ทุนนี้ต้องเป็นผู้แทนประเทศไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นผู้แทนก็ต้องสอบสัมภาษณ์ครับ โดยผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับทุนขึ้นอยู่กับสาขาวิชาด้วย อย่าง วิชาฟิสิกส์ คนที่มีสิทธิ์ได้รับทุนต้องผ่านค่าย 15 คน (ค่าย สสวท. ที่คัดนักเรียนจนเหลือ 15 คน)

ทุนนี้ไม่มีการสอบข้อเขียน หรือ เขียน essay ประกอบการสมัคร คนที่จะได้รับทุนต้องผ่านการคัดเลือกเท่านั้น (กรณีที่ไม่ใช่ผู้แทน) อาจมีการนำคะแนนสอบในค่ายโอลิมปิกวิชาการมาพิจารณาประกอบการคัดเลือก ในส่วนของการสอบสัมภาษณ์ ไม่เน้นอะไรมากครับ ขอแค่เรามีความรักความชอบในวิทยาศาสตร์สาขาที่จะไปเรียนต่อก็พอ เพราะกรรมการสัมภาษณ์จะถามเรื่องทั่ว ๆ ไป และทดสอบว่าเราต้องการจะเรียนต่อด้านวิทยาศาสตร์จริงหรือเปล่า

สุดท้ายนี้อยากฝากถึงเพื่อน ๆ ว่า ทุนนี้เป็นทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ ดังนั้นใครที่อยากจะรับทุนนี้ควรมีความรักความชอบทางด้านวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง หากเพื่อน ๆ ต้องการรับทุนนี้ ต้องสมัครเข้าร่วมโครงการโอลิมปิกวิชาการในสาขาที่ตนชอบและตั้งใจเรียนให้มาก ๆ เพราะเวลาในค่ายโอลิมปิกวิชาการเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามาก เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากอาจารย์ชั้นแนวหน้าของประเทศ ในระหว่างเรียนก็ทำให้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องทุน เพราะถึงไม่ได้ทุนนี้ก็ยังมีทุนอื่น ๆ อีกมากมายรอเพื่อน ๆ อยู่ ผมหวังว่าจะมีน้อง ๆ สนใจไปเรียนต่อทางด้านวิทยาศาสตร์มากขึ้น และนำความรู้กลับมาพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคตครับ

ที่มา "การศึกษาวันนี้"
ผู้เขียน : ปิยะนุช

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook