ตัน ภาสกรนที จาก ม.3 สู่ CEO ผู้ร่ำรวย (น้ำใจ)

ตัน ภาสกรนที จาก ม.3 สู่ CEO ผู้ร่ำรวย (น้ำใจ)

ตัน ภาสกรนที จาก ม.3 สู่ CEO ผู้ร่ำรวย (น้ำใจ)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

หลังจากนำเสนอบุคคลที่ประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ได้จบปริญญาไป ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ วันนี้ผมขอหยิบยกคนไทยที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจที่สำคัญรวยมากๆ ที่รวยไม่ใช้ตัวเงินนะครับ แต่หมายรวมไปถึงน้ำใจ ที่คุณตันมีให้คนไทยเสมอ เมื่อไหร่ที่ประเทศนี้ต้องการ

ผมเคยดูรายการ the IDOL คนบันดาลใจ แล้ววันนั้นแขกรับเชิญ เป็นคุณตัน ภาสกรนที ผมชอบแนวความคิดและการใช้ชีวิต ของคุณตันมากๆ คนอะไรทำงานไปก่อนเวลาทำงาน และกลับบ้านหลังจากที่ทุกคนกลับบ้านกันหมดแล้ว แถมเมื่อทำธุรกิจร้านขายหนังสือ ยังจำได้อีกว่าลูกค้าคนไหนอ่านหนังสืออะไร ลูกค้ามาถึงไม่ต้องเอ่ยปากคุณตันแกหยิบใส่ถุงให้ทันที (เพราะคุณตันแอบจดไว้ว่าลูกค้าท่านนั้นซื้อหนังสือเล่มใดเป็นประจำนั่นเอง)

แค่เกริ่นเพื่อนๆ Sanook! Campus หลายคนก็อยากรู้จักผู้ชายคนนี้กันแล้ว วันนี้ผมขอพาเพื่อนๆมารู้จักกับ นักธุรกิจคนเก่ง คนนี้กัน

ตัน ภาสกรนที เกิดเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2502 ในครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีน ที่มีฐานะปานกลาง ที่บิดาอพยพมาจากประเทศจีน และได้ตั้งรกรากที่จังหวัดชลบุรี จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเริ่มทำงานแรกเป็นพนักงานแบกของ เริ่มต้นค่าแรงในการทำงาน 700 บาท และหันมาทำอาชีพพ่อค้าแผงหนังสือที่ชลบุรี และได้เริ่มต้นซื้อห้องแถวขยายกิจการจนเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตัน เริ่มต้นธุรกิจ "โออิชิ" ภัตตาคารบุปเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น และมีธุรกิจอื่นๆ เช่น สตูดิโอถ่ายภาพแต่งงาน จนกระทั่ง มาทำธุรกิจเครื่องดื่ม คือ ชาเขียวโออิชิ และ อะมิโน โอเค

วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553 คุณตัน อำลาจาก บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อย่างเป็นทางการและก่อตั้งบริษัทขึ้นใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท ตันไม่ตัน จำกัด โดย คุณตัน ให้คำมั่นสัญญาในการทำบริษัทนึ้ว่า  "ในการเริ่มต้นธุรกิจของบริษัท ไม่ตัน จำกัดครั้งนี้ เงินปันผลของบริษัทในส่วนที่ผมและคุณอิง ภรรยาของผมถือหุ้นอยู่ ผมขอแบ่งเงินปันผลนี้ 50% ให้กับมูลนิธิตันปัน ตั้งแต่ปีแรกที่ดำเนินการเป็นต้นไป จนเมื่อผมอายุครบ 60 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เดือน 9 พ.ศ. 2562 ผมจะเพิ่มเงินบริจาคไม่ต่ำกว่า 90% ให้กับมูลนิธิตันปันตลอดไปเพื่อใช้ในการพัฒนาการศึกษาและสิ่งแวดล้อม"

"ผมยอมเป็นถังขยะ เพราะในถังขยะเต็มไปด้วยความลับ และความรู้ ที่หาที่อื่นไม่ได้ ประสบการณ์ที่ได้รับ ทำให้ผมสอนลูกน้อง หลายคนว่า ถ้าคุณยังทำงานไม่เต็มที่ในวันนี้ ต่อไปเมื่อไปทำธุรกิจ ของตัวเอง ถึงจะคิดว่าเต็มที่ก็ไม่มีทางสำเร็จ เพราะการทำงานเต็มที่ ต้องสร้างสม จนเคยชิน จนกลายเป็นนิสัย ที่ผมประสบความสำเร็จ ในวันนี้เพราะ ตอนที่ผมทำงานให้กับคนอื่น ผมก็ทำเต็มที่ ทำจนเป็นนิสัย ถ้าคุณไม่เต็มที่ ตอนเป็นลูกน้อง วันที่คุณเป็นนายจ้าง คุณก็ไม่รู้หรอกว่าการทำงาน เต็มที่ต้องทำอย่างไร" นี่คือประโยคที่ ตัน ภาสกรนที ใช้สอนลูกน้อง จาก : WhO? Magazine

"เมื่อก่อน...ระหว่างทำงานที่โออิชิความสุขของผมคือการเห็นการเติบโตของบริษัท ซึ่งดูได้จากตัวเลขผลกำไรที่ขยับสูงขึ้นทุกปี รวมถึงตัวเลขในบัญชีของผมด้วย แต่วันนี้รู้สึกพอแล้วนะครับ ความสุขของผมในวันนี้ไม่ใช่ตัวเลขในบัญชี ไม่ใช่ตัวเลขกำไรขาดทุนของบริษัท แต่กลับเป็นรอยยิ้มของคนที่ผมได้พบ และสิ่งที่ผมอยากจะทำให้คนอื่น ที่ผ่านมาบางครั้งเราก็ย้อนถามตัวเองว่า คิดไหมว่าเราจะมีวันนี้ คำตอบคือไม่เคยคิดหรอก สิ่งที่เรามีวันนี้มันเกินฝันเราไปเยอะแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้เรามีวันนี้คือโอกาสครับ โอกาสที่คนอื่นมอบให้เราตลอดชีวิต ผมมองว่าทุกๆ คนมีความสามารถทั้งนั้น แต่บางคนไม่เคยได้รับโอกาสแม้แต่ครั้งเดียว เพราะฉะนั้นวันนี้ในฐานะที่เป็นผู้รู้คุณค่าของการให้ ผมเลยอยากจะเปลี่ยนสถานะจากผู้รับเป็นผู้ให้บ้าง ความสุขวันนี้ของผมไม่ใช่รายได้ที่เราจะใส่กระเป๋าตัวเองอีกแล้ว แต่เป็นการมอบโอกาสให้กับคนอื่น แบ่งปันไปถึงคนรอบข้าง ทำงานก็ทำเต็มที่ แต่ผลออกมาจะได้มากหรือน้อยก็ไม่ใช่ประเด็น แค่ได้ช่วยคนอื่นให้เขามีโอกาส เท่านี้ผมก็มีความสุขแล้วครับ" จาก : นิตยสาร เปรียว

Sanook! Campus- โชคชะตาไม่สามารถต้านทานมานะคนได้จริงๆ...

เรื่องโดย : Sanook! Campus

ตอนนี้โรงงานคุณตันที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมเสียหายหนัก ยังไง ทีมงาน Sanook! Campus ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณตันด้วยครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook