ทำสีผมที่บ้านระวังหน้าบวม หน้าพัง

ทำสีผมที่บ้านระวังหน้าบวม หน้าพัง

ทำสีผมที่บ้านระวังหน้าบวม หน้าพัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เทรนด์เปลี่ยนสีผมแบบเปลี่ยนเสื้อผ้าแรงไม่หยุด แต่ระวังหน้าบวมหน้าเละ

แฟชั่นการดูแลทรงผม เปลี่ยนสีผม เป็นเรื่องที่สาวเจ้าให้ความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ บางคนผมสีสวยอยู่แล้วแต่ก็ไม่พอใจไปเปลี่ยนเป็นสีอื่นเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก

แต่ก็ต้องยอมรับว่า การใช้น้ำยาเปลี่ยนสีผม ก็คือการเอาสารเคมีเทลงบนหนังหัวเรานั่นเอง แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าไม่ดีต่อร่างกาย แต่ความอยากสวยมีมากกว่า ทำให้ใคร ๆ ก็ทำกัน

เรื่องของการแพ้สารเคมีในเครื่องสำอาง เครื่องประทินโฉม มีออกมาเรื่อย ๆ ล่าสุดเป็นเรื่องราวของสาววัย 15 จากอังกฤษ ที่อยากสวยตามประสาวัยรุ่นรักสวยรักงาม จะต้องออกงานไปแข่งขันการแสดง ก็เลยไปซื้อยาทำสีผมยี่ห้อดังที่เอ่ยชื่อแล้วทุกคนต้องร้องว่ารู้จักดี เพราะขายดีเหลือเกินยี่ห้อที่ว่านี้

 

น้ำยาทำสีผมทุกยี่ห้อจะมีการบอกวิธีใช้ค่อนข้างละเอียด รวมถึงการให้ทดลองทาที่ผิวทิ้งไว้ 48 ชั่วโมงดูว่ามีอาการแพ้หรือไม่ (แต่หลายคนก็มักไม่ได้ทำตามที่บอกไว้ครบถ้วน)

แต่สำหรับสาวน้อยผู้โชคร้าย คาร์ล่า แฮร์ริส เธอไม่ประมาททดลองทายานี้ที่ผิวทดสอบครบ 48 ชั่วโมงก่อนทำการเปลี่ยนสีผมด้วยตัวเอง เธอเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ทำเสร็จเธอก็รู้สึกแสบ ๆ คัน ๆ ที่บริเวณหนังศีรษะ เธอก็กินยาแก้แพ้กันไว้ก่อน แต่วันรุ่งขึ้นหัวเธอก็รู้สึกบวมขึ้นมาอย่างผิดปกติ เธอไปหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตก็รู้ว่าเคยมีคนเสียชีวิตเพราะการแพ้แบบนี้ที่ทำให้หลอดลมบวมจนขาดอากาศหายใจมาแล้ว


เธอไปหาหมอทันที แต่หมอก็ให้แค่ยาแก้แพ้มากิน อาการเธอก็ไม่ดีขึ้น หน้าตาเธอเริ่มบวมไปหมด หนังตาปิดแทบมองอะไรไม่ได้ จนต้องกลับไปหาหมออีกครั้งคราวนี้ไม่ใช่แค่ให้กินยาแก้แพ้เท่านั้น

แม้ว่าอาการแพ้น้ำยาเปลี่ยนสีผมจะเกิดขึ้นได้น้อยมากเพียง 7.1% ในกลุ่มผู้ใช้ทั้งหมด แต่เมื่อเกิดขึ้นก็ทำอันตรายถึงชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้องทันเวลา

สารเคมีที่ชื่อว่า PPD ส่วนประกอบสำคัญในน้ำยาเปลี่ยนสีผมที่วางขายทั่วไป เป็นสารต้องห้ามที่ไม่อนุญาตให้ใช้ในหลายประเทศแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเมืองแห่งแฟชั่น ฝรั่งเศส เยอรมัน สวีเดน

แต่อีกรายหนึ่งก็ไม่น้อยหน้าที่หน้าแทบพังเพราะยาเปลี่ยนสีผมที่ซื้อมาทำที่บ้าน แม่บ้านวัย 45 ที่กำลังดีใจจะแต่งลูกสะใภ้ ลงทุนเปลี่ยนสีผมต้อนรับงานมงคลของครอบครัว แต่เธอคงมีเวลาเตรียมตัวน้อยหรือไม่ก็ใจร้อนอยากสวยเร็ว เธอทดสอบน้ำยากับผิวเธอเพียง 24 ชั่วโมงไม่ครบ 48 ชั่วโมงตามที่ข้างกล่องระบุไว้ เพราะเธอทำแบบนี้มาตั้งแต่อายุ 17 ทำมาจน 45 มันก็ไม่น่าจะเกิดอะไรที่ไม่คาดฝัน

ปรากฏว่าเมื่อเธอเริ่มปฏิบัติการ ทำตอนสี่โมงเย็น ก่อนเข้านอนตอนสี่ทุ่ม อาการคัน แสบก็มาเยือนแบบไม่ได้เชื้อเชิญ เธอดูกระจกหน้าเธอแดงขึ้นผื่น แต่ก็เข้านอนตามปกติ พอตีหนึ่งเธอเริ่มรู้สึกแย่ กลืนน้ำลายแทบไม่ได้ สามีรีบพาเธฮไปหาหมอ

หน้าตาเธอแย่อย่างที่เห็นในรูป แม้เธอจะเคยทำแบบนี้มาหลายครั้งหลายหนและปลอดภัยดี แต่ทว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้ายุ่งกับสิ่งที่เรียกว่าสารเคมี

เธอบอกว่าเธอไม่กล้าออกไปไหนมาไหน แถมอาการก็แย่ลง หน้าเป็นผื่นหนา หูมีสีคล้ำลง แม้ทางเจ้าของสินค้าจะรับผิดชอบขนาดจ่ายค่าแท็กซี่พร้อมค่าหมอให้กับเธอ เธอเองก็บอกว่าไม่คุ้มกันเลย

เป็นอีกเรื่องราวให้สาว ๆ ชอบสวยชอบเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ หรือบางทีก็ประหยัดซื้อของที่ราคาถูกเกินไปมาทำสวย ซึ่งบางทีค่าหมอจะทำให้ไม่คุ้มสวยเอา

แต่ในมุมมองหนุ่ม ๆ ถ้าเขาชอบสีผมเดิมของคุณแล้วก็อย่าต้องลงทุนไปทำร้ายทำลายผมสวย ๆ ของคุณเลย และอย่าได้ตกเป็นเหยื่อโฆษณามากเกินไปด้วยละ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook