ดาวรุ่ง มุ่งเรียน เปี่ยมความสามารถ หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ

ปัจจุบันดารานักแสดงรุ่นใหม่เกิดขึ้นประดับวงการมากมาย ไม่ว่าแจ้งเกิดจากเวทีการประกวดต่าง ๆ หรือจากสายตาอันแหลมคมของโมเดลลิ่งซึ่งทุกคนล้วนมีความสามารถด้วยกันทั้งสิ้น รวมถึงสาวน้อยตาแบ๊วคนนี้ด้วย "หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ" ไม่ว่าจะร้อง เต้น เล่นละคร เธอทำมาหมดทุกอย่างแล้ว

 

              หนูนาเป็นนักแสดงที่เต็มไปด้วยพลังอย่างแท้จริง ผลงานต่าง ๆ ที่ผ่านอาทินักแสดงในละครน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ และเทวดาสาธุ ทางช่อง 3 และอีกหนึ่งงานชิ้นโบแดงที่สาวคนนี้ภาคภูมิใจเป็นอย่างมากกับการโชว์พลังเสียงบทบาทของ "ริน" ในละครเวทีฟอร์มยักษ์ "บัลลังก์เมฆ เดอะมิวสิกคัล" ล่าสุดเธอเป็นนางเอกใหม่ของค่าย GTH ในภาพยนตร์รักโรแมนติก "กวน มึน โฮ... Knowing me Knowing you" (19 สิงหาคม ทุกโรงภาพยนตร์) เรียกว่าเป็นดาวรุ่งอีกหนึ่งดวงที่น่าจับตามองมาก มาทำความรู้จักกับสาวน้อยตากลมคนนี้ดีกว่าค่ะ

หนังเรื่องแรก เดินทางครั้งแรก ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก
              การได้เล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ดีใจมากค่ะ เป็นการเดินทางต่างประเทศครั้งแรกของหนูนาและได้ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกด้วยค่ะ (หัวเราะ) ดีใจมากเพราะเกาหลีเป็นประเทศที่หนูนาใฝ่ฝันอยากจะไปเที่ยวตั้งนานแล้ว ประทับใจประเทศเกาหลีมาก ๆ ค่ะ

             การทำงานเป็นการถ่ายทำต่างประเทศทุกซีนหนูนาตื่นเต้นหมดและรู้สึกเกร็งนิดหน่อยเพราะกลัวว่าเราจะทำไม่ได้อย่างที่พี่โต้ง (ผู้กำกับ) เขาบอกอีกอย่างกลัวว่าเราจะไปเป็นตัวถ่วงเขาด้วย แต่พี่ ๆ เขาคอยให้คำแนะนำดีมาก ร่วมงานกับพี่ ๆ ทุกดีมากค่ะ พี่เต๋อ (ฉันทวิชท์ ธนะเสวี) เป็นคนตลกค่ะทำให้การทำงานไม่เครียดมาก ทุกคนมีความเป็นมืออาชีพกันหมดอยู่แล้ว ก่อนหน้านั้นหนูนาเคยแต่ดูหนังที่พี่ ๆ เขากำกับและแสดงวันหนึ่งหนูนามีโอกาสได้มาร่วมงานด้วยรู้สึกดีใจมากค่ะ

เกาหลีแดนในฝัน มั่นใจต้องเรียนภาษาเกาหลีแน่นอน
              หนูนาชอบนักร้องเกาหลี ชอบดูซีรี่ส์เกาหลี ชอบประเทศเกาหลีอยู่แล้ว พอมีโอกาสได้มาเยือนถิ่นเขาประทับใจเป็นร้อยเท่าเลยค่ะ อีกอย่างที่ประทับใจคือประเทศเกาหลีมีวัฒนธรรมเป็นของตัวเองที่แข็งแรงมาก อย่างชุดฮันบกซึ่งสวยงามมาก หรือจะเป็นประเพณีของเขาดูแล้วน่ารักไปหมดแม้กระทั่งการพูดจาภาษาของเขายังน่ารักเลย บ้านเมืองเกาหลีมีเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก ยิ่งไปสัมผัสยิ่งประทับใจ อยากกลับไปใหม่ค่ะ

             พูดภาษาเกาหลีพอได้บ้างค่ะ แต่หนูนาไม่เคยเรียนแบบจริงจังนะคะ คือตอนที่ไปถ่ายหนังใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนทำให้พอรู้และพอสื่อสารได้บ้างค่ะ อาศัยเรียนรู้จากพี่ไกด์ที่เขาเป็นคนพาเราไปตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างคำไหนประโยคไหนที่หนูนาอยากรู้เราก็จะถามพี่เขาว่าต้องพูดอย่างไร และสื่อสารอย่างไรต่อค่ะ ก็จะไปแบบเป็นประโยคเป็นคำ ๆ ไป ตั้งใจไว้แล้วเหมือนกันว่าจะเรียนภาษาเกาหลีแบบจริงจัง เวลาที่ได้ไปเที่ยวเกาหลีอีกรอบจะได้สื่อสารกับคนเกาหลีได้อย่างดี สามารถพูดจาโต้ตอบกันได้ คิดว่าจะเรียนเป็นคอร์สเหมือนกันแต่ตอนนี้ศึกษาจากหนังสือไปก่อนค่ะ

24 ชม. ใน 1 วัน กับการเรียนและการทำงาน
             หนูแบ่งเวลาเรียนได้ค่ะทำให้เต็มที่เพื่อเราอยู่ในเวลาไหนอย่างอยู่ในเวลางานจะตั้งใจทำงาน หรือเมื่ออยู่ในห้องเรียนจะตั้งใจเรียน ตั้งใจฟังอาจารย์สอนในห้องเรียนเช่นเดียวกันค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วการทำงานจะเป็นหลังเลิกเรียนหรือเป็นวันหยุดมากกว่า

             ตอนที่ถ่ายทำหนังกวน มึน โฮ ที่เกาหลี โชคดีตรงที่เป็นช่วงปิดเทอมพอดีจึงไม่มีมีผลกระทบด้านการเรียนเท่าไหร่ คือหนูนาให้ความสำคัญกับการเรียนเป็นหลักอยู่แล้ว อีกอย่างหนูนาโชคดีที่มีเพื่อน ๆ น่ารักทุกคนค่ะ วันไหนที่ไม่ได้ไปโรงเรียนเพื่อน ๆ จะคอยเก็บงานให้เสมอ วันไหนที่หยุดเรียนหนูนาต้องเขียนใบลาส่งทางโรงเรียนเสมอค่ะเพราะเป็นกฎของโรงเรียน

เลือกทางเดินที่เหมาะสม เมื่อพ้นจากรั้วโรงเรียน (สตรีวิทย์)
              ตอนนี้หนูนาเรียนอยู่ชั้นม.6 ค่ะ วางแผนไว้ว่าอยากเรียนทางด้านภาษาศาสตร์ เพราะชอบภาษาต่างประเทศอยู่แล้ว หนูนาชอบอ่านนิยายแปล รู้สึกอยากแปลนิยายได้เหมือนนิยายที่เราอ่านค่ะ(ยิ้ม) อยากพูดได้หลายภาษาจะได้สื่อสารกับคนต่างชาติได้ การเตรียมตัวสำหรับสอบแอดมิชชั่นส์ตอนนี้อ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอและเรียนพิเศษเพิ่มเติมค่ะ

หนูนาอยากเข้าจุฬาฯ ให้ได้เป็นมหาวิทยาลัยในฝันเลย
               นอกจากอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ที่หนูนาจะเลือกเป็นอันดับหนึ่งแล้ว หนูนามองคณะนิเทศศาสตร์ไว้เหมือนกันค่ะ กับคณะอักษรศาสตร์ ของม.ศิลปากร มีคนบอกเหมือนกันว่าทำไมไม่เลือกเรียนนิเทศไปเลยไหน ๆ ก็ได้เห็นการทำงานเบื้องหลังและคลุกคลีอยู่กับแวดวงนี้แล้ว แต่หนูนายังรักที่จะเรียนทางด้านภาษาอยู่ ใจยังชอบทางด้านนี้เลยไม่อยากเปลี่ยนทางไปไหน ถ้าโชคดีสอบเข้าอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ได้ หนูนาสามารถเลือกวิชาโทเป็นทางด้านการแสดงหรือจะเป็นทางด้านการละครได้เหมือนกัน

เทคนิคการเรียนที่สามารถลอกเลียนแบบได้
              เทคนิคการเรียนของหนูนาคือการแบ่งเวลาให้ได้ สมมุติถ้าเป็นตอนใกล้จะสอบเมื่อมีเวลาว่างปุ๊บหนูนาจะหยิบหนังสือขึ้นมาทบทวนเสมอค่ะ คือเอาหนังสือติดตัวไปด้วยตลอด เผื่อเวลาพักกองถ่ายหรือช่วงจังหวะรอคิวถ่ายจะได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วย หนูนาจะมีเทปบันทึกเสียงอาจารย์ในห้องเรียนมานั่งฟังด้วยว่าอาจารย์สอนตรงไหนบ้าง

วิชาอังกฤษ...รักสุดใจ
              วิชาที่ชื่นชอบคือภาษาอังกฤษ วิชาภาษาไทยและสังคม แต่วิชาที่รู้สึกว่าตัวเองเรียนแย่มาก (หัวเราะ) คือวิชาคณิตศาสตร์ คือหนูนาเป็นเด็กศิลป์-ภาษาจีน เรื่องตัวเลข เรื่องคำนวณจะไม่ค่อยดีเป็นปกติอยู่แล้ว (หัวเราะ) ที่เลือกเรียนสายนี้เพราะภาษาจีนในอนาคตคงได้ใช้แน่นอน ตอนนี้เพิ่งเรียนได้แบบพื้นฐานเองค่ะ

              เสน่ห์ของภาษาจีนคือเป็นตัวอักษรที่สวยงามมาก มีไม่ซ้ำกัน รู้สึกว่ายากเหมือนกันนะคะ ถ้าตั้งใจก็ไม่ยากค่ะ ความยากจะอยู่ตรงการออกเสียงและการเขียนไวยากรณ์ คือตัวอักษรถ้าเขียนขีดผิดข้าง กลายเป็นอีกตัวเป็นอีกความหมายไปเลยค่ะ

วิชา ส.ป.ช. สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต (วงการบันเทิง) มากกว่าเงินทอง มากกว่าชื่อเสียง
             การได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงทำให้หนูนามีความรับผิดชอบมากขึ้น ในมุมความคิดบางอย่างหนูนาอาจจะโตเป็นผู้ใหญ่นิดนึง เพราะหนึ่งเราได้ทำงานร่วมกับผู้ใหญ่เยอะทำให้ความคิดบางอย่างเรียนรู้ได้ด้วยประสบการณ์ แต่ในบางมุมหนูนาอาจจะยังเป็นเด็กอยู่คือในโรงเรียนหนูนายังเล่นเป็นเด็กเหมือนเพื่อน ๆ คนอื่น แต่เมื่อเรามาทำงานภาคบังคับทำให้เราต้องโตเป็นผู้ใหญ่ค่ะ วิธีการคิดวิธีการพูดบางครั้งอาจจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน คือหนูนาจะเรียนรู้ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด คือรู้จักกาลเทศะที่จะพูดให้เหมาะสมถูกที่และถูกเวลาค่ะ

             วงการบันเทิงสอนอะไรหลายอย่างมากค่ะ ทั้งเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากันคนที่หลากหลายอาชีพ การเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงทำให้ ได้รู้จักคนเยอะค่ะ เรียนรู้การเข้าสังคมต้องวางตัวอย่างไร ความคิดสร้างสรรค์หนูนาได้มาเหมือนกัน

เป้าหมายสูงสุดของการเรียน
              ถ้ามีโอกาสหนูนาตั้งใจว่าจะเรียนให้ถึงปริญญาเอกเลยค่ะ (ยิ้ม) คือการเรียนถ้าเรายังรักที่จะเรียนวิชาความรู้ต่าง ๆ ไม่มีวันสิ้นสุดอยู่แล้ว อย่างน้อยสุดขอระดับปริญญาโทค่ะ แต่ตอนนี้คิดใกล้ ๆ ไว้ก่อนละกันนะคะ (หัวเราะ) สอบเข้าเรียนให้ได้และเรียนจบปริญญาตรีก่อนค่ะ

             หนูนาฝากความคิดทิ้งท้ายถึงพื่อน ๆ วัยเรียนว่าไม่ควรจะทิ้งแม้เราจะทำงานหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ เรื่องเรียนเป็นสิ่งสำคัญ การเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในตำราหรือในห้องเรียน ความรู้รอบตัวเป็นสิ่งสำคัญและสามารถเรียนรู้ได้เสมอ ..

 

ที่มา "การศึกษาวันนี้"
ผู้เขียน : oakky วิไลรัตน์ ต่ายประยูร ช่างภาพ : นายหรั่ง